ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ที่เป็นแหล่งน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด(14 ต.ค. 57) ที่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำ 5,755 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 43 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 1,955 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำ 5,711 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 2,861 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 738 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 79 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 695 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 799 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 83 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ 796 ล้านลูกบาศก์เมตร
รวมทั้ง 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 6,300 ล้านลูกบาศก์เมตร
ซึ่งตามที่กรมชลประทาน ได้มีประกาศแจ้งเรื่อง การงดส่งน้ำเพื่อเพาะปลูกข้าวนาปรังในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในช่วงฤดูแล้งปี 2557/2558 ไปแล้ว นั้น แต่จากปริมาณน้ำต้นทุนในปีนี้อยู่ในเกณฑ์น้อย ไม่เพียงพอที่จะจัดสรรน้ำเพื่อสนับสนุนการทำนาปรัง ที่ต้องใช้น้ำเป็นจำนวนมากได้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนต่อไปแล้ว และเพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด เพียงพอใช้อย่างไม่ขาดแคลน จึงขอให้เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา งดทำนาปรัง เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลผลิตที่อาจจะได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ ทั้งยังจะเป็นการจัดสมดุลน้ำ ทำให้มีน้ำต้นทุนสำรองไว้ใช้รองรับการเริ่มต้นทำนาปี 2558 นอกจากนี้ ยังจะเป็นการพักดิน และตัดวงจรเพลี้ยกระโดด ทั้ง จะมีน้ำเพียงพอที่จะผลักดันน้ำเค็มที่มักจะรุกเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงฤดูแล้งของทุกปีด้วย
....