ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างสื่อท้องถิ่นในหลายประเทศในเอเชียว่า หลายประเทศในเอเชีย เช่น ประเทศไทย เกาหลีใต้ ประเทศจีน อินเดียและฮ่องกง มีฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศรุนแรง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก(WHO) ระบุว่า ประชากร 9 คนในทุกๆ 10 คนบนโลกใบนี้สูดอากาศที่ปนมลพิษในระดับสูง ตั้งข้อสังเกตว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือแอฟริกาและเอเชีย สำหรับประเทศไทย ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ในหลายท้องที่ของกรุงเทพมหานคร มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือค่า PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันมานี้ มีฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นระหว่าง 150-200 ไมไครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เมื่อพิจารณาจากดัชนีวัดคุณภาพอากาศ(AQI)ของ WHO ที่ระบุว่า ค่า AQI ต่ำกว่า 25 จึงจะปลอดภัยต่อการหายใจ
สำหรับเกาหลีใต้ มีฝุ่นละอองแผ่ปกคลุมท้องฟ้าในระดับรุนแรง 5 วันติดต่อกันแล้ว ในรอบ 48 ชม.ที่ผ่านมา มีค่า AQI ระหว่าง 150-225 ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ รัฐบาลท้องถิ่นในกรุงโซลและอีก 10 เมือง ได้บังคับใช้มาตรการฉุกเฉิน มีการจำกัดรถบางประเภทไม่ให้เข้ามาแล่นตามท้องถนน และให้โรงงานต่างๆลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ส่วนในอินเดีย ผลการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเมืองบอมเบย์และสถาบันผลกระทบทางสุขภาพของอินเดีย เมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า ปัญหามลพิษคือสาเหตุการเสียชีวิตของพลเมืองอินเดียเฉลี่ย 1 ล้านศพต่อปี และมลพิษในกรุงเดลีนับว่ารุนแรงที่สุดในโลก โดยในวันนี้ ค่า AQI สูงเกิน 300 ในหลายท้องที่ของกรุงเดลี และเป็นปัญหาหนึ่งที่เรื้อรังมาหลายปี ขณะเดียวกันรัฐบาลอินเดียกำหนดแผนระยะ 5 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อลดมลพิษทางอากาศลงร้อยละ 30 จากระดับของปี 2560 ให้สำเร็จภายในปี 2567