เครื่องบินคาซ่าจำนวน2ลำได้ขึ้นบินทำฝนหลวงในช่วงบ่ายแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาปฏิบัติการประมาณ1ชั่วโมง โดยการขึ้นบินครั้งที่2นี้ เพื่อเลี้ยงเมฆให้อ้วน เพิ่มแกนเม็ดไอน้ำให้กลุ่มเมฆฝนมีความหนาแน่นมากขึ้น ใช้สารเคมีผงแคลเซียมคลอไรด์โปรยเข้าไปที่กลุ่มเมฆที่มีความสูงประมาณ 8,000 ฟุต หรือสูงกว่าฐานเมฆประมาณ 1,000 ฟุต
หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะต้องกลับมาประชุมและสรุปสถานการณ์ติดตามเมฆที่เกิดจากปฏิบัติการทำฝนหลวง ว่าเคลื่อนที่เข้าสู่กรุงเทพมหานครแล้วหรือไม่ เบื้องต้นทราบว่า พื้นที่กรุงเทพมหานครบางแห่งฝนเริ่มตกแล้ว โดยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คาดว่า เป็นอิทธิพลของการทำฝนหลวงกลุ่มแรกในขั้นตอนแรก คือ การวางแกนให้เกิดเมฆก้อนใหญ่ ส่วนขั้นตอนที่2 เลี้ยงให้อ้วน ที่ขึ้นบินเมื่อสักครู่หวังว่าฝนจะตกช้า และมีอายุเมฆ มากกว่ากลุ่มแรก สำหรับการทำฝนหลวงในวันพรุ่งนี้ จะต้องประเมินสภาพอากาศอีกครั้งว่าสามารถทำได้หรือไม่