หลังเมื่อช่วงเช้ากรมฝนหลวงขึ้นบินเพื่อให้เกิดฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล บรรเทาปัญหาฝุ่นละออง นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้เมื่อเวลา 10.30 น. หน่วยเคลื่อนที่เร็วปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นบินปฏิบัติการจากสนามบินอู่ตะเภา เพื่อทำฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเริ่มวางแกนให้เกิดเมฆตั้งแต่บางปะกงไปถึงบางน้ำเปรี้ยวจังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากกรุงเทพมหานครอยู่ด้านตะวันตกของจังหวัดฉะเชิงเทรา จากการวางแกนดังกล่าว พบว่า สภาพอากาศดี ในช่วงบ่ายนี้เจ้าหน้าที่จะทำการบินอีกรอบ เพื่อเลี้ยงเมฆให้อ้วนและปล่อยให้พัดเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยได้ประสานกับสนามบินสุวรรณภูมิ ขอทำการบินห่างจากสนามบินในระยะทางประมาณ15-20ไมล์ จากเดิมมีกฎการบินต้องห่างจากสนามบินไม่น้อยกว่า50ไมล์ เพื่อที่จะให้เมฆไหลเข้ากรุงเทพมหานครในระยะสั้นขึ้น คาดว่าฝนจะตกด้านทิศตะวันออกของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่อย่างไรก็ตามต้องอาศัยกลไกธรรมชาติและอายุของเมฆด้วย หากเมฆพัฒนาได้ในระยะสั้นจะทำให้ฝนตกในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร แต่หากพัฒนาเป็นระยะยาว เชื่อว่าฝนจะตกในพื้นที่ชั้นในและตะวันตกของกรุงเทพมหานครได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับทิศทางของลมที่จะต้องติดตามกัน
นายสุรสีห์ ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ ที่กรมฝนหลวง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป สำหรับจังหวัดอื่นๆที่เกิดฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน กรมฝนหลวงมีการติดตามสถานการณ์อยู่ตลอด เช่น จังหวัดสระบุรี มีผลกระทบระดับหนึ่ง แต่การทำฝนหลวงต้องคำนึงผลกระทบหลายอย่าง ซึ่งขณะนี้จังหวัดสระบุรีกำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต หากทำฝนหลวงอาจกระทบต่อเกษตรกรได้ แต่เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวเสร็จ และสภาพอากาศเอื้ออำนวย กรมฝนหลวงก็พร้อมปฏิบัติการทันที
นายสุรสีห์กล่าวว่า ประชาชนคนไทยถือว่าโชคดี มีตำราของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงคิดค้นฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือในเรื่องแห้งแล้ง ไฟป่า หมอกควัน ซึ่งครั้งนี้นำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องการลดฝุ่นละออง จึงขอให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ขอให้ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี