การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเป็นโครงการนำร่อง ระบบบริหารจัดการ วันนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า วันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระบบขนส่งให้ก้าวเข้าสู่ Thailand 4.0 หลังจากนี้ รัฐบาลและเอกชนต้องร่วมมือกันพัฒนาและขยายผล เชื่อว่าประเทศจะก้าวเข้าสู่ความเจริญและไปถึงไทยแลนด์ 4.0 อย่างแน่นอน
ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า เป็นที่น่ายินดีที่ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะร่วมกันพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้ติด 1 ใน 10 ของโลก จากที่ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังอยู่ในลำดับที่ 1 ใน 3 ของเอเชีย
ด้านร้อยตำรวจตรีมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังรักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ท่าเรือแหลมฉบังเป็นจุดขนถ่ายสินค้าสำคัญของประเทศมีปริมาณตู้ขนถ่ายสินค้าเข้าออกภายในท่าเรือเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ปริมาณรถบรรทุกมากเกินความสามารถในการรองรับของระบบประตูตรวจสอบสินค้าและด้วยการบริหารจัดการคิวที่ยังไม่เป็นระบบ ทำให้ท่าเรือแหลมฉบังมักประสบปัญหาการจราจรติดขัดทั้งภายในและภายนอกท่าเรือ กทท.เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาดังกล่าว จึงร่วมมือกับดีป้าพัฒนาท่าเรือแฉลมฉบังให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ หรือเรียกว่า Smart Port ซึ่งจะช่วยส่งผลในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและการให้บริการด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลายรูปแบบ ทั้งทางเรือ รถไฟ และรถบรรทุก ความคล่องตัวในการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ และการจราจรที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มคุณภาพการให้บริการ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ การส่งออกนำเข้า ลดปัญหาการจราจรและลดปัญหามลภาวะสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวชุมชนโดยรอบ
นอกจากนั้น กทท. จะร่วมผลักดันนโยบายการบริหารจัดการใช้งานจองคิวรถบรรทุกระบบTruck Queuing อย่างเต็มรูปแบบ และให้ชำระค่าบริการผ่านระบบ Smart Post อีกด้วย รวมถึงปรับปรุงข้อมูลผู้ขนส่งเพื่อนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในอนาคต
ด้าน นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลหรือดีป้า กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุนมีหน้าที่ให้ดีป้าเดินหน้าผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการนี้จะเป็นโครงการนำร่องในการใช้ดิจิตอลพัฒนาสู่การเป็น Smart Port เพื่อขยายศักยภาพ EECต่อไปในอนาคต