+++สหรัฐฯและจีน เสร็จสิ้นการเจรจาการค้า ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาททางการค้า ที่จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งของจีนเป็นเวลา 3 วันแล้ว โดยสมาชิกในคณะผู้แทนของสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาดำเนินไปด้วยดี คณะเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่ง เมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นการพบปะเจรจาอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ตกลงร่วมกันเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ที่จะให้ระงับการใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าระหว่างกันเป็นเวลา 3 เดือน
+++นายเท็ด แม็คคินนีย์ ปลัดกระทรวงด้านการค้าและกิจการด้านการเกษตรต่างประเทศ หนึ่งในสมาชิกคณะผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาดำเนินไปด้วยดีและสหรัฐฯเห็นว่าเป็นการเจรจาที่ดี
+++ด้านกระทรวงต่างประเทศจีน ยืนยันตรงกันว่า การเจรจาการค้าได้ยุติลงแล้ว แต่ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องผลของการเจรจา กล่าวเพียงว่า จะมีการเผยแพร่รายละเอียดของการเจรจาในภายหลัง
+++โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวว่า หากผลการเจรจาออกมาดีแล้ว ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์กับจีนและสหรัฐฯ แต่จะเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจโลกด้วย
+++บีบีซี รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสว่าเครื่องบินรบรุ่นมิราจ 200 ลำหนึ่งของกองทัพอากาศฝรั่งเศสบินขึ้นจากฐานทัพแนนซี-โอชีย์ โดยมีนักบิน 2 คนบนเครื่องบิน และนักบินทั้ง 2 คน ไม่ได้แจ้งเหตุผิดปกติกับเจ้าหน้าที่หอการบิน สูญหายจากจอเรดาร์ขณะบินในพื้นที่เทือกเขาสูงทางภาคตะวันออกของประเทศ หลายฝ่าย หวั่นเกรงว่าเครื่องบินรบดังกล่าว อาจจะประสบอุบัติเหตุตกในพื้นที่ดังกล่าว กองทัพอากาศฝรั่งเศส อยู่ระหว่างค้นหาเครื่องบินลำดังกล่าว สื่อฝรั่งเศส เพิ่มเติมว่า มีหิมะตกหนักและหมอกจัดในพื้นที่ดังกล่าวในช่วง 2-3 วัน อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของทีมค้นหา
+++โฆษกอัยการเบลเยียม รายงานว่า อัยการ ตั้งข้อหาชายชาวเบลเยียมคนหนึ่งในข้อหาจัดหาอาวุธให้กับสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ที่ก่อเหตุโจมตีกรุงปารีส ฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 มีคนเสียชีวิต 130 ศพ ตำรวจ ควบคุมตัวชายคนดังกล่าวก่อนวันคริสต์มาส เพื่อสอบปากคำในประเด็นเรื่องการจัดหาอาวุธให้กับกลุ่มคนร้ายและถูกตั้งข้อหาเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มก่อการร้าย ศาลสั่งให้คุมขังชายคนดังกล่าวระหว่างการสอบสวน เนื่องจาก หวั่นเกรงว่าคนร้ายอาจจะหนีคดี
+++สำนักงานตำรวจแห่งชาติของออสเตรเลีย ( เอเอฟพี ) ออกแถลงการณ์เรื่องการได้รับแจ้งเหตุพบ พัสดุต้องสงสัย ส่งไปยังสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศในกรุงแคนเบอร์รา และสถานกงสุลของอีกหลายประเทศประจำเมืองเมลเบิร์น ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการทูตและประชาชนซึ่งเข้าไปใช้บริการด้านกงสุลในช่วงเกิดเหตุไม่ได้รับอันตราย และขั้นตอนการอพยพเป็นไปอย่างเรียบร้อย
+++สื่อท้องถิ่นหลายแห่งนำโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซี รายงานว่า มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลรวมเกือบ 20 แห่งได้รับพัสดุที่เป็น วัตถุอันตราย รวมถึงสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อินเดีย ปากีสถาน ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ อียิปต์ อินโดนีเซีย และไทย
+++เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นประมาณ 2 วันหลังสถานกงสุลอาร์เจนตินาประจำเมืองซิดนีย์ได้รับ พัสดุต้องสงสัย โชคดีเมื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าไม่ใช่วัตถุอันตราย
+++พายุฝุ่นรุนแรงพัดกระหน่ำเมืองห่างไกลในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทำให้ท้องฟ้ากลายเป็นสีแดงครึ้มและไฟดับตามบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ วิดีโอจากครอบครัวเกษตรกรในเมืองบาเรลแลนเป็นภาพพายุฝุ่นสีแดงปกคลุมทั่วท้องฟ้าและต้นไม้เอนตามแรงลม ผู้บันทึกวิดีโอไว้เมื่อช่วงบ่ายวันอังคาร กล่าวว่า ท้องฟ้ามืดลงผิดปกติเหมือนกับอยู่ในช่วงเวลาตีสอง คล้ายกับมีผ้ามาบังแสงอาทิตย์
+++คนท้องถิ่น บอกว่า แม้พายุฝุ่นพัดกระหน่ำในพื้นที่ดังกล่าวมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถือว่าหนาแน่นมาก ทั้งน่ากลัวและน่าตกใจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
+++สื่อท้องถิ่น รายงานว่า บ้านเรือนกว่า 5,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ ในพื้นที่พายุฝุ่นกระหน่ำ แม้ว่าระบบไฟฟ้ากลับมาให้บริการได้ตามปกติเป็นส่วนใหญ่เมื่อค่ำวันอังคาร เมืองที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝุ่นในออสเตรเลียได้แก่ เมืองบาเรลแลน เมืองทีโมรา และเอเรียพาร์ค
+++ภาพดาวเทียมล่าสุดที่ซีเอ็นเอ็นได้รับมา ชี้ว่า อิหร่านอยู่ระหว่างการเตรียมยิงจรวดปล่อยดาวเทียมสำรวจข้อมูลระยะไกลสู่วงโคจรอวกาศ นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ว่าอิหร่านอยู่ระหว่างเดินหน้าแผนกปล่อยดาวเทียมสู่อวกาศ แม้ว่าจะถูกคัดค้านจากนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ
+++ในเบื้องต้น ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นการปล่อยดาวเทียมเพื่อประโยชน์ด้านการทหารหรือไม่ แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯจะตั้งข้อสังเกตว่าพาหนะที่ใช้ปล่อยจรวดมีการผสมผสานเทคโนโลยีที่ใช้ในการปล่อยขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่าน เข้าข่ายละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ห้ามอิหร่านทดลองเทคโนโลยีขีปนาวุธพิสัยไกลทุกชนิด
+++สำนักข่าวเอเอฟพี นายเจฟฟ์ เบซอส วัย 54 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทอะเมซอนธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และภรรยาคือนางแมคเคนซี เบซอส วัย 48 ปี ออกแถลงการณ์ร่วมกันผ่านทางทวีตเตอร์เบซอสว่า ครอบครัวของเราและเพื่อนสนิทรู้กันมานานแล้วว่า หลังจากใช้ชีวิตร่วมกันมานานและทดลองแยกกันอยู่แล้ว ในที่สุดเราทั้งคู่ได้ตัดสินใจที่จะหย่าขาดจากกัน แต่ยังสามารถใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะเพื่อนได้
+++นายเจฟฟ์ เบซอสกับนางแมคเคนซี เบซอส ระบุว่า รู้สึกโชคดีอย่างเหลือเชื่อที่ได้อยู่ด้วยกันมานาน 25 ปีแต่จะยังคงเกี่ยวข้องกันในฐานะเพื่อนสนิทและพ่อแม่ของลูกๆ ทั้ง 4 คน แม้ต่อไปเราจะต่างกันด้านคำนิยาม แต่เราก็ยังเป็นครอบครัวและเพื่อนที่ดีต่อกัน
+++นายเจฟฟ์ เบซอส ติดอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของนิตยสารฟอร์บส์และบลูมเบิร์ก มีทรัพย์สินประมาณ 137,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
CR:NHK