การก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่เพื่อการอยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย(Smart community)เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร รองผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) สายบริหารสินทรัพย์และพัฒนาธุรกิจ ระบุว่า โครงการนี้ จะให้เฉพาะประชาชนบริเวณคลองเตย 26 ชุมชน 13,000 ครัวเรือนเท่านั้น ที่มีสิทธิได้รับการจัดที่อยู่อาศัย จากนี้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจสำมะโนประชากรที่แท้จริง เบื้องต้นยอมรับว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่ขอเข้าไปอยู่ในโครงการฯ โดยอาจรับเป็นเงินชดเชยหรือรับที่ดินบริเวณหนองจอกอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเป็นอีกสองสิทธิประโยชน์ที่มีการเสนอให้แทน รับด้วยว่ายังมีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ไม่พอใจกับนโยบายฯนี้
ด้านตัวโครงการฯ ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องการให้เข้าอยู่ที่ชัดเจนว่าจะเป็นแบบใด ต้องรอให้คณะกรรมการฯที่รับผิดชอบพิจารณา แต่เบื้องต้นน่าจะเป็นการให้เช่าระยะยาว 30 ปี อาจไม่เสียค่าห้องหรือเสียในอัตราที่ต่ำ แต่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางด้วย โดยกทท. ได้เตรียมพื้นที่ส่วนหนึ่งของโครงการฯไว้เป็นที่ขายของให้ประชาชน ขณะเดียวกันจะมีการตรวจสอบป้องกันการนำห้องไปปล่อยขายหรือให้ผู้อื่นเช่า ทั้งนี้ตัวโครงการฯ กำลังจะยื่นขอทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) และปีหน้าน่าจะตั้งงบก่อสร้างได้ คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565
ส่วนที่ดินย่านหนองจอก ได้จัดสรรให้ทั้งสิ้น 2,140 แปลง เป็นที่ดินเปล่าให้ประชาชนที่มีสิทธิสามารถเข้าไปสร้างบ้านอยู่ได้ทันที แม้ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจน แต่คาดว่าคงไม่ต้องจ่ายค่าที่คืน แต่ขณะเดียวกันก็คงไม่สามารถขายที่ต่อได้ ทั้งนี้ขอให้รอดูรายละเอียดอีกครั้ง เช่นเดียวกับเงินชดเชยก็ขอให้ดูรายละเอียดเช่นกัน เพราะต้องรอผู้แทนชุมชนในพื้นที่มาคุย โดยขณะนี้ยังไม่มีการวางหลักเกณฑ์การจ่ายเงินและวงเงินว่าจะให้จำนวนเท่าใด พร้อมย้ำว่าทุกอย่างเน้นช่วยเหลือประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วนที่เดิมของประชาชนชุมชนคลองเตยมีอยู่ประมาณ 200 ไร่ รวมแล้วเป็นเงินไม่น้อยกว่า 30,000 ล้านบาท คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 10 ปี จึงจะจัดการพื้นที่ทั้งหมดได้เรียบร้อย ทั้งนี้เมื่อรวมพื้นที่ทั้งหมดของกทท. ที่มีอยู่ในบริเวณคลองเตยจะมีที่ทั้งหมดประมาณ 2,300 ไร่ ซึ่งจะเข้าสู่แผนมาสเตอร์แพลน(Master Plan) ต่อไป โดยบางพื้นที่มีแนวคิดจะนำมาทำเป็นสวนสาธารณะ เป็นต้น
ด้านนาง สำเภา เขียวพราย ผู้นำชุมชนน้องใหม่ ที่อยู่บริเวณกรมศุลกากร ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีสิทธิได้ประโยชน์จากโครงการฯ บอกว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีคนในชุมชนคัดค้านเรื่องนี้ โดยกำลังปรึกษากับคณะกรรมการชุมชนฯว่าจะเลือกสิทธิประโยชน์แบบใดจาก 3 ทางที่มีการเสนอมา แต่ส่วนตัวให้ความพอใจกับโครงการฯนี้แค่ร้อยละ 20 เพราะมองว่าโครงการฯ ไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากประชาชนบริเวณคลองเตยส่วนใหญ่มีรายได้น้อย บางครอบครัวยังไม่มีเงินจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แถมส่วนมากอาศัยอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งสวนทางกับโครงการฯที่ห้องมีขนาดแค่ 33 ตารางเมตร ไม่อาจนำครอบครัวมาอยู่ได้ทั้งหมด ทั้งโครงการฯยังมีค่าใช้จ่ายต่างๆจำนวนมากที่ไม่สอดคล้องกับรายรับด้วย แต่ทั้งนี้ทางกทท. ได้ให้ข้อเสนอมาว่าให้ชุมชนไปหารือกันเพื่อหาทางออกให้ได้ และก็ไม่ได้เร่งรัดให้รีบตัดสินใจและยังไม่ได้บอกว่าต้องตัดสินใจภายในวันใด