ครม.เห็นชอบ ลดหย่อนภาษีเงินบริจาคช่วยประสบภัยพายุปาบึก

08 มกราคม 2562, 16:55น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า  คณะรัฐมนตรียังอนุมัติมาตรการหักลดหย่อนภาษีและยกเว้นภาษี สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อนปาบึก โดยประชาชนสามารถนำเงินบริจาคไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เท่าจำนวนบริจาคแต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้สุทธิ ส่วนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถนำไปหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล เท่าจำนวนที่บริจาคแต่ไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ โดยจะต้องเป็นการบริจาคผ่านหน่วยงานราชการ องค์การของรัฐบาล สถานสาธารณกุศล หรือผ่านเอกชนที่เป็นตัวแทนรับบริจาคที่ขึ้นทะเบียนกับกรมสรรพากร ส่วนผู้ประสบภัยที่ได้รับเงินบริจาค เงินชดเชยจากรัฐบาล หรือ เงินหรือทรัพย์สินที่ได้รับบริจาคนอกเหนือจากเงินชดเชยรัฐบาลจะไม่นำมาคำนวณเป็นเงินได้ แต่จะต้องไม่เกินกว่ามูลค่าความเสียหายที่ได้รับ



นอกจากนั้น ที่ประชุม คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีกำหนดแผนงานโครงการ 5 ปี งบประมาณ พ.ศ.2562 -2566 วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 21,000 ล้านบาท โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณพิจารณาจัดหาแหล่งเงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงาน สำหรับโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร เป็นหนึ่งในแผนการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยา 9 แผนงาน เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาถึงปากแม่น้ำ ความยาวประมาณ 22.50 กิโลเมตร ระบายน้ำได้สูงถึง 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ยังเป็นโครงการที่นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2560 ให้เร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว



อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์และรถในพื้นที่ที่ราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึก โดยประชาชนในพื้นที่จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมอสังหาริมทรัพย์ ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคารหรือห้องชุด ไม่เกิน 200,000 บาท และค่าซ่อมรถ ไม่เกิน 30,000 บาท โดยจะต้องมีการใช้จ่ายระหว่างวัน 3 ม.ค. - 31 มี.ค.62



คณะรัฐมนตรียังมีมติทบทวน การกู้เงินโครงการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาคช่วงกรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) ให้กระทรวงการคลัง สามารถกู้เงินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาให้การรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อได้

ข่าวทั้งหมด

X