ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 746.94 จุด ปิดที่ 23,433.16 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 84.05 จุด ปิดที่ 2,531.94 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 275.35 จุด ปิดที่ 6,738.86 จุด หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานระบุว่า เมื่อเดือนธ.ค.2561 เศรษฐกิจของประเทศมีการจ้างงานเพิ่มเติม 321,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้อย่างมาก ย้ำถึงความเข้มแข็งในตลาดแรงงาน นอกจากนี้แล้ว หุ้นวอลล์สตรีท ยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากความเห็นของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯไม่ได้กำหนดแผนไว้ล่วงหน้า สำหรับอัตราดอกเบี้ยและกำลังจับตาสภาวะเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้แล้ว ตลาดยังมีปฏิกิริยาในทางบวกต่อถ้อยแถลงของกระทรวงพาณิชย์จีนที่ยืนยันว่าคณะผู้แทนเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯจะพบกับคณะผู้แทนเจรจาทางการค้ากับจีนในวันที่ 7 – 8 ม.ค.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองฝ่ายพบกันนับตั้งแต่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เห็นพ้องเมื่อเดือนธ.ค.2561 พักรบทางการค้าเป็นเวลา 90 วัน ประกอบกับ
ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯที่ช่วยกลบความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และดันราคาน้ำมันในวันศุกร์ปิดบวกแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ ปิดที่ 47.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมัน ปรับขึ้นแม้ข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า คลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ เพิ่มขึ้น 7,000 บาร์เรล อยู่ที่ 441.4 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 ธันวาคม 2561 ส่วนสต๊อกเบนซิน เพิ่มขึ้น 6.9 ล้านบาร์เรล และสต๊อกน้ำมันกลั่น เพิ่มขึ้น 9.5 ล้านบาร์เรล
การดีดตัวอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯและราคาน้ำมัน ฉุดให้ราคาทองคำในวันศุกร์ ปิดลบแรง เนื่องจาก นักลงทุน เมินสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,285.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แฟ้มภาพ