+++นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการ ผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากทุกประเภทสำหรับบุคคลธรรมดาที่มียอดเงินฝากไม่เกิน 5 ล้านบาท ร้อยละ 0.25 ทำให้มีอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตั้งแต่ร้อยละ 1.15-1.85 ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงที่สุดในระบบ มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.นี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิม เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้ประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25
+++ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารก็ได้ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภท สำหรับวงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท ร้อยละ 0.25 ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารกสิกรไทย อยู่ที่ ร้อยละ 1.15-1.85 ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.นี้ เพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐในการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนโดยเฉพาะ ผู้ฝากเงินรายย่อย ไม่มีสูตรตายตัวว่าเมื่อขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากแล้วจะขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ตามเมื่อใด แล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งครั้งนี้ธนาคารขึ้นเงินฝากขาเดียว ไม่ได้แตะดอกเบี้ยเงินกู้ ยอมรับว่ามีผลกระทบกับต้นทุนการเงินบ้างเนื่องจาก ฐานเงินฝากใหญ่ แต่รับได้ เพื่อดูแลผู้ฝากหรือผู้ออมให้ได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น
+++นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปีนี้ยังคงเน้นการดูแลผู้บริโภคโดยเฉพาะราคาสินค้า ที่ยังไม่ให้ขึ้นราคา โดยอ้างราคาน้ำมัน เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันปรับลดลงมาแล้ว รวมทั้งจะเพิ่มทางเลือกในการบริโภคสินค้าราคาถูกให้กับผู้มีรายได้น้อย และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าชุมชน และในด้านบริการ จะดูแลเรื่องยาและเวชภัณฑ์ และค่าบริการทางการแพทย์ โดยจะเสนอให้เป็นสินค้าและบริการควบคุมในวันที่ 9 ม.ค. นี้ เพื่อให้มีมาตรการดูแลราคาให้กับผู้บริโภค
+++นอกจากนี้ ยังเตรียมขยายการดูแลไปถึงร้านอาหาร โดยเฉพาะค่าเซอร์วิสชาร์จ ร้อยละ 10 คิดจากฐานอะไร ซึ่งบางร้านที่เก็บก็เอาเข้ากระเป๋า ไม่ได้จ่ายให้พนักงาน และการบวกภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ที่บางร้านมีการบวกเข้าไปในบิลทีหลัง ซึ่งจริง ๆ ทำไม่ได้ รวมถึงพิจารณาการคิดราคาค่าอาหารที่ต้องเหมาะสม ทั้งร้านระดับหรู ร้านขนาดกลาง และร้านสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพราะก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก และได้หารือร่วมกับสมาคมภัตตาคารไทยไปก่อนหน้านี้แล้ว
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 47.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งหนัก โดยดาวโจนส์ ร่วงลงกว่า 600 จุด หลังแอปเปิล คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในแง่ลบ จากยอดขายที่ชะลอตัวในจีนและข้อมูลการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 660.02 จุด ปิดที่ 22,686.22 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 62.14 จุด ปิดที่ 2,447.89 จุด แนสแดค ลดลง 202.43 จุด ปิดที่ 6,463.50 จุด
แอปเปิล ร่วงลงร้อยละ 10 ปิดที่ 142.19 ดอลลาร์ กลายเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ 2013 สูญเสียมูลค่าด้านการตลาดเกือบ 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แรงเทขายมีขึ้นหลังจากบริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ ปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสที่กำลังมาถึง เนื่องจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในจีน โดยได้รับผลกระทบบางส่วนจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
+++ความเคลื่อนไหวของตลาดทุนและดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำในวันพฤหัสบดี พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,294.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.2561 - 2 ม.ค. 2562 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,791 ครั้งผู้เสียชีวิต 463 ศพ บาดเจ็บ 3,892 คน สาเหตุหลักยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 79.64 ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ประสานให้แต่ละท้องที่บรรจุเรื่องการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเป็นวาระหนึ่งในการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงและสงบเรียบร้อยอำเภอ พร้อมถอดบทเรียนให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึก ปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนน
+++จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 4 จังหวัด ได้แก่ ตาก แพร่ สตูล และสมุทรสงคราม จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (118 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (25 ศพ) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (137 คน)
+++ยอดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 เมื่อเทียบกับช่วงปีใหม่ 2561 ของ ศปถ. พบว่า เมื่อปี 2561 มีอุบัติเหตุ 3,841 ครั้ง ปี 2562 มีอุบัติเหตุ 3,791 ครั้ง ลดลง 50 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิตปี 2561 จำนวน 423 ราย ปี 2562 จำนวน 463 ศพ เพิ่มขึ้น 40 ศพ และผู้บาดเจ็บปี 2561 จำนวน 4,005 คน ส่วนปี 2562 จำนวน 3,892 ราย ลดลง 113 คน
+++ในการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในวันนี้ คาดว่า จะพิจารณากำหนดเรื่องวันเลือกตั้งเป็นวาระสำคัญ หลังจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เนื่องจากมีประกาศพระราชโองการให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตั้งแต่วันที่ 4-6 พ.ค.นี้ จึงต้องให้ข้อมูลกับกกต. เพื่อนำไปตัดสินประกาศวันเลือกตั้ง โดยเราได้รับรู้กันก่อนหน้านี้แล้วว่า เราตั้งใจจะให้มีการเลือกตั้งได้ในวันที่ 24 ก.พ. เนื่องจาก เราต้องการให้อยู่ใน 150 วัน และเร็วสุด ที่จะให้จัดการเลือกตั้ง โดยที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมที่เหมาะสม
+++นายวิษณุ ระบุว่า เบื้องต้นในการประชุมแม่น้ำ 5 สายที่ผ่านมาเคยตกลงกันว่าโอกาสแรกสุดของการเลือกตั้งคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันแรกและวันที่อยู่ใน 150 วันตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งเป็นวันที่ทุกฝ่ายมีความพร้อม ขณะนั้นยังไม่ได้พูดคุยเรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันนี้จึงต้องมาแจ้งให้กกต.ทราบ เพราะพิธีดังกล่าวไม่ได้มีเพียงวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 แต่จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ก่อนและหลัง 15 วัน ดังนั้น ระหว่างที่มีพระราชพิธีและกิจกรรมต่าง ๆ กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งวันใดก็ไม่กระทบกับพระราชพิธี แต่จะต้องไม่เกิน 150 วัน หากจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็ไม่กระทบกับพระราชพิธี แต่อาจทำให้ระยะเวลาการหาเสียงหรือการเตรียมการของกกต.สั้นลง ซึ่งการที่กฎหมายกำหนด 150 วันในรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถใช้มาตรา 44 แก้ไขได้ ยอมรับว่าการที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งในช่วงระหว่างวันที่ 2-4 มกราคม 2562 วันเลือกตั้ง อาจจะไม่ใช่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
+++นอกจากนี้ รัฐบาลยังเป็นห่วงช่วงหลังเลือกตั้งที่จะต้องประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน และหากกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 กกต.จะต้องประกาศผลให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 เมษายน 2562 รวมทั้งยังมีเรื่องการประกาศรายชื่อและแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) พิธีเปิดประชุมรัฐสภา การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภาและการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรี จึงเป็นอำนาจของกกต. 7 คนที่จะพิจารณาว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งวันใด
แฟ้มภาพ