การประชุมเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อนปาบึก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม Video Conference กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ที่จะเคลื่อนตัวเข้าไทยตั้งแต่วันที่ 3-6 มกราคมนี้
นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามสถานการณ์ปัจจุบันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการรายงานว่าขณะนี้ พายุมีศูนย์กลางอยู่ที่อ่าวไทยตอนล่าง บริเวณจังหวัดปัตตานี มีความเร็วลมอยู่ที่ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งห่างไปทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ คาดการณ์ว่า จะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งมีความเร็วลม 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือมากกว่า ซึ่งจะขึ้นฝั่งที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณอำเภอปากพนังและสิชล ขณะนี้มีคลื่นสูง 3 เมตร และมีปริมาณน้ำฝนสะสมจากการประเมิน หากขึ้นฝั่งระดับน้ำฝนในพื้นที่จะอยู่ที่ 300 มิลลิเมตร
ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี บริเวณเกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ได้มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จในเวลาพลบค่ำ รวมถึงมีมาตรการห้ามเดินเรือในช่วงคลื่นลมแรง เตรียมความพร้อมในการระบายน้ำ เร่งพร่องน้ำในเขื่อน รวมถึงแหล่งน้ำเพื่อเตรียมรับปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มขึ้นหลังพายุขึ้นฝั่ง
เหล่าทัพ หน่วยงานหลัก มีการเตรียมความพร้อมการให้การช่วยเหลือประชาชน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เตรียมความพร้อมในทุกอำเภอและมีการเปิดศูนย์ในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำลังพลจากกองทัพภาค 4 มณฑลทหารบกที่ 60 โดยมีการเตรียมเฮลิคอปเตอร์จำนวน 8 ลำและเตรียมพร้อมอีก 3 ลำ รวมถึงมีรถสร้างสะพานเร่งด่วนจำนวน 5 คัน ซึ่งสะพานจะมีความยาว 15 เมตร กว้าง 3 เมตร มีขีดความสามารถในการสร้างสะพานในระยะเวลาไม่กี่นาที
ด้านกองทัพเรือ เตรียมเรือรบจำนวน 2 ลำ และเรือผลักดันน้ำจำนวน 100 ลำ กองทัพอากาศมีการเตรียมเครื่องบิน เตรียมการเคลื่อนย้ายประชาชนพร้อมกับกระจายครัวสนามในแต่ละพื้นที่
นายกรัฐมนตรี สั่งให้หน่วยงานมีการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการสื่อสาร ที่อาจมีการขัดข้องหากพายุเคลื่อนขึ้นฝั่ง รวมไปถึงการเตรียมวิทยุทรานซิสเตอร์เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนและยังเน้นย้ำอีกว่าขอให้ทุกคนปลอดภัย ซึ่งเป็นความสำคัญอันดับแรก หากต้องเคลื่อนย้ายประชาชน ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนให้ได้มากที่สุดและเน้นการระบายน้ำในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งอยากให้สื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันเพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสน และเน้นย้ำว่าเป้าหมายคือความปลอดภัยของทุกคน
ผู้สื่อข่าว: ปิยะธิดา เพชรดี
CR:รัฐบาลไทย