ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ เวลา19.35น.วันที่ 2 ม.ค.2562

+++กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุปาบึกเข้าอ่าวไทย 2-3 ม.ค.2562 ขึ้นฝั่งชุมพร สุราษฎร์ธานี ค่ำวันที่ 4 ม.ค. จะทำให้มีฝนหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ พรุ่งนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่พร้อมจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตาม เฝ้าระวัง วิเคราะห์สภาพน้ำฝน น้ำท่า และการเคลื่อนตัวของพายุปาบึก รวมทั้งประเมินแนวโน้มสถานการณ์น้ำและอุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติอย่างใกล้ชิด

+++พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมด่วนวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ไปยังจังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ14 จังหวัดใต้ หลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี กำชับหน่วยงานให้เน้นการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ใน 3 เรื่อง ทั้งการเคลื่อนตัวของพายุ  การเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ การวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ รวมถึงการเตรียมพร้อมปฏิบัติการในระดับพื้นที่

+++นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับผู้ตรวจราชการกระทรวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาล เพื่อติดตามความพร้อมและแผนการรองรับการดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก ในวันที่ 3 – 5 มกราคม 2562

+++นพ.สุขุม กล่าวว่า พายุปาบึกที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทย ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากใน 16 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และ 14 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ซึ่งเป็นบริเวณที่ลุ่มและทางน้ำ รวมทั้งกทม.และปริมณฑลที่อาจมีฝนตกหนักในวันที่ 4 ม.ค.คาดว่ามีสถานบริการสาธารณสุขทุกระดับที่อาจได้รับผลกระทบ 282 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด/โรงพยาบาลศูนย์นครศรีธรรมราช สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โรงพยาบาลชุมพร สั่งการให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC)

+++นพ.สุขุม กำชับให้เตรียมความพร้อมใน 5 ด้าน ป้องกันอาคารสถานที่ อุปกรณ์การแพทย์ ก่อสร้างที่กั้นน้ำในพื้นที่บริการผู้ป่วยหรืออาคารที่สำคัญ เตรียมเครื่องสูบน้ำ ตรวจสอบระบบระบายน้ำไม่ให้อุดตัน เคลื่อนย้ายเวชภัณฑ์ เอกสารสำคัญไว้ในที่ปลอดภัย สำรวจความแข็งแรงสิ่งก่อสร้าง ป้ายประกาศ ไฟส่องสว่าง ตัดแต่งต้นไม้ รื้อถอนสิ่งที่เป็นอันตรายหรือซ่อมแซมให้ปลอดภัย สำรองยา เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และทรัพยากรอื่น ๆ ที่มีความจำเป็นในการจัดบริการ เช่น ระบบไฟฟ้าสำรอง น้ำมัน ออกซิเจน อาหาร เป็นต้น สำรวจผู้ป่วยที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ และไม่สามารถเดินทางมาสถานบริการได้ เช่น ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ออกเยี่ยมบ้านและจ่ายยาให้เพียงพอ เตรียมแผนประคองกิจการ ปรับพื้นที่ให้บริการ กรณีไม่สามารถเปิดบริการได้ และแผนการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมทั้งประสานโรงพยาบาลข้างเคียงร่วมจัดบริการนอกสถานที่ เตรียมที่พักที่ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และเตรียมทีมเคลื่อนที่เร็วช่วยเหลือทางการแพทย์ เช่น ทีมปฏิบัติการกู้ชีพฉุกเฉิน (EMS) ชุดปฏิบัติการแพทย์สนามฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติ หรือทีมเมิร์ท (MERT : Medical Emergency Response Team) และทีมมินิ-เมิร์ท ทีมฟื้นฟูเยียวยาทางสุขภาพจิต (MCATT) ทีมอนามัยสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ขณะนี้ ทุกจังหวัดได้เตรียมความพร้อมเป็นอย่างดี

+++นายปิยะ หนูนิล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ระบุว่า ตามที่กรมอุตุฯ ได้ประกาศเตือน และในช่วงนี้บริเวณอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง คลื่นลมเริ่มมีกำลังแรงมากขึ้น เพื่อป้องกันอันตรายจึงขอปิดการท่องเที่ยว  อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นการชั่วคราว 3 วัน ระหว่างวันที่ 3-5 ม.ค.หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

+++ช่วงบ่ายภายหลังการประชุมคณะมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมนางนราพร ภริยา เดินทางเข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นการส่วนตัว ก่อนที่จะเดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อสักการะพระแก้วมรกต สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง จากนั้นนายกฯได้เดินทางต่อมาที่ศาลหลักเมือง เพื่อสักการะศาลหลักเมืองและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่

+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมกกต. มีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ได้รับการเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 200 คน จากที่กกต. ได้จัดให้มีการเลือกเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2561 แล้ว พร้อมให้ส่งรายชื่อทั้งหมดให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ภายในวันเดียวกันนี้ ซึ่งคสช.จะไปคัดเลือก50คน และขึ้นบัญชีสำรองไว้อีก50คน

+++เลขาธิการ กกต กล่าวว่า ส่วนเรื่องร้องคัดค้าน ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 16 เรื่อง อยู่ระหว่างการพิจารณาสอบสวนโดยจะได้รายงานให้คสช.ทราบด้วย หากการสืบสวนสอบสวนของกกต.แล้วเสร็จ และพบว่าผู้ได้รับการเลือกคนใด ได้รับเลือกมาโดยไม่สุจริต ก็จะมีการแจ้งคสช.ทราบ และยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาให้เพิกถอนสิทธิสมัครของผู้นั้นต่อไป

+++น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีราคาสินค้าและบริการ (เงินเฟ้อ) ปี 2562 คาดว่า จะขยายตัวอยู่ในกรอบร้อยละ 0.7-1.7 ภายใต้สมมติฐานอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 น้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยทั้งปีที่ 70-80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล และค่าเงินบาท อยู่ที่ 32.5-33.5 บาท/เหรียญฯ  ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อปี2562 เพิ่มขึ้น คือ ราคาพลังงาน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น, การลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่ทิศทางที่ดีขึ้น, ราคาสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มดีขึ้น, การส่งออกไทย คาดขยายตัวได้ เป็นต้น

+++สำหรับการเลือกตั้งในประเทศที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.พ.2562 น่าจะทำให้เงินเฟ้อไตรมาสแรกขยับขึ้นได้มากกว่าร้อยละ 0.86 เพราะจะทำให้มีเงินสะพัดจากการใช้จ่ายในการหาเสียง นอกจากนี้ ยังมองว่าการเลือกตั้งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคลื่อนไหวในแดนบวก สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังจากค่าเงินบาท ปรับตัวแข็งค่าขึ้น ทำให้คาดว่าจะมีกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับเข้ามารวมถึงการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนมากขึ้น ความเชื่อมั่น นักลงทุนเริ่มกลับมาอีกครั้งหนุนตลาดได้ ปิดตลาดที่ 1,565.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 31,644.43 ล้านบาท 

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ฮั่งเส่ง ฮ่องกง ปิดปรับตัวลดลงในการซื้อขายวันแรกของปี 2562 ในวันนี้ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ดัชนีฮั่งเส็งร่วงลง 715.35 จุด ปิดที่ 25,130.35 จุด

+++นิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดทำการ เนื่องในวันปีใหม่

+++ตำรวจแมนเชสเตอร์ สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า คดีที่ผู้ต้องสงสัยอายุ 25 ปีใช้มีดไล่แทงคนที่สถานีรถไฟแมนเชสเตอร์วิคตอเรีย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถูกจัดให้เป็นคดีก่อการร้าย แต่ในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจะอยู่ภายใต้กฎหมายด้านสุขภาพจิต ฐานเป็นผู้ต้องสงสัยพยายามฆ่า โดยในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบมีด 2 เล่มนำส่งพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นมีดที่ใช้ในการก่อเหตุหรือไม่

+++ตำรวจ เปิดเผยว่า ไม่พบผู้ต้องสงสัยรายอื่นเกี่ยวข้องกับการโจมตี และการตรวจค้นที่พักของผู้ต้องสงสัยที่ชีแธม ฮิลล์ ยังดำเนินต่อไป ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 คนที่ได้รับความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงมีอาการสาหัส โดยสตรีอายุประมาณ 50 ปีได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและช่องท้อง ส่วนชาย อายุประมาณ 50 ปีได้รับบาดเจ็บที่ท้อง ส่วนตำรวจอายุประมาณ 30 ปีได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

+++หลังจากที่เกิดเหตุ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ทวีตข้อความแสดงความเป็นห่วงผู้ได้รับบาดเจ็บและยกย่องเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

+++บีบีซี รายงานอ้างตำรวจเดนมาร์ก ว่า มีคนเสียชีวิต 6 ศพและบาดเจ็บ 16 คนจากอุบัติเหตุทางรถไฟบนสะพานเกรทเบลท์ที่เชื่อมโยงระหว่างเกาะซีแลนด์กับเกาะฟูเนน เมื่อเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ ตำรวจไม่ได้ให้รายละเอียด แต่ระบุว่า มีวัตถุบางอย่างจากรถไฟสินค้ากระแทกเข้ากับตู้โดยสารของรถไฟโดยสารอีกขบวนหนึ่งอย่างรุนแรง รถไฟโดยสารซึ่งมีผู้โดยสาร 131 คนและพนักงานประจำรถไฟ 3 คน ขณะแล่นสวนกันบนสะพาน ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด

+++สื่อท้องถิ่นรายงานที่มาที่ไปของอุบัติเหตุว่าในช่วงเกิดเหตุมีพายุรุนแรง ผ้าใบกันน้ำจากรถไฟสินค้าขบวนหนึ่งพัดไปกระแทกกับตู้โดยสารของรถไฟโดยสารอีกขบวนหนึ่ง ขณะแล่นสวนกันบนสะพาน ทำให้มีการหยุดรถกระทันหัน

แฟ้มภาพ