ครม.อนุมัติก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีฯจ.ชัยภูมิ/ให้ก.คมนาคม-ก.พาณิชย์ ตรวจสอบภาพถ่ายใบหน้าบุคคล

02 มกราคม 2562, 15:36น.


คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลายโครงการตามที่แต่ละหน่วยงานเสนอมา นายพุทธิพงษ์​ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่ กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชัยภูมิ ความจุ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2567 วงเงินประมาณ 3,100 ล้านบาท เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ



ขณะเดียวกัน ได้อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอของบประมาณผูกพันข้ามปี 3 โครงการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ โครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาลบางไทร ผูกพันงบประมาณปี 2563-2566 วงเงินรวม 12,797 ล้านบาท โดยขอตั้งงบประมาณปี 2563 2,559 ล้านบาท โครงการปรับปรุงคลองยมน่าน ผูกพันงบประมาณปี 2563-2567 วงเงิน 2,189.32 ล้านบาท ขอตั้งงบประมาณปี 2563 วงเงิน 437.86 ล้านบาท และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ ระยะที่ 1 ผูกพันงบประมาณปี 2563-2566 วงเงิน 1,606 ล้านบาท ขอตั้งงบประมาณปี 2563 วงเงิน 321.38 ล้านบาท โดยให้ยื่นของบประมาณผูกพันข้ามปีตาม พระราชบัญญัติวิธีการใช้งบประมาณ 2561 สำนักงบประมาณ จะพิจารณาตามรายละเอียดโครงการอีกครั้ง



นอกจากนี้ ยังอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคม ขอเชื่อมโยงข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าบุคคล จากฐานข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อใช้ตรวจสอบใบหน้าคนประจำเรือ หรือแรงงานเรือประมงทะเล เพื่อเปรียบเทียบโครงหน้าเดิมที่เคยลงทะเบียน และยืนยันตัวบุคคลตามฐานข้อมูลให้ถูกต้อง เช่นเดียวกับกระทรวงพาณิชย์ ที่ขอเชื่อมโยงข้อมูลภาพถ่ายใบหน้าบุคคล จากฐานข้อมูลกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปใช้ในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์  เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวบุคคลในการพิจารณาคำขอจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์



ที่ประชุมยังมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กระทรวงคมนาคมออกสำรวจที่ดินในพื้นที่ของรัฐ และประชาชน เพื่อเวนคืนที่ดินในเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ก่อนออกเป็นพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินเวนคืน



นอกจากนี้ ยังอนุมัติโครงการตั้งศูนย์วิจัยและรักษาโรคมะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ลักษณะอาคารสูง 20 ชั้น คาดว่า จะสามารถรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง 7,000 รายต่อปี และสามารถป้องกันโรคมะเร็ง 20,000 รายต่อปี ภายใต้ งบประมาณกว่า 2,436 ล้านบาท แบ่งเป็นงบอุดหนุน 1,987ล้านบาท และงบประมาณสภากาชาดไทย ประมาณ 487ล้านบาท



ขณะที่ ระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน วันที่ 14 มกราคม นายกรัฐมนตรี ตรวจราชการที่จังหวัดเชียงใหม่ และวันที่ 15 มกราคม จะประชุมคณะรัฐมนตรีที่จังหวัดลำปาง  



ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X