หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเฝ้าระวังพายุโซนร้อนปาบึก บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างระหว่างวันที่ 3 - 5 มกราคมที่อาจส่งผลกระทบต่อจังหวัดภาคใต้ วันนี้ นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประชุมคณะทำงานศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกรมทรัพยากรน้ำ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า พายุดังกล่าวจะเคลื่อนตัวเข้าชายฝั่งอ่าวไทย มีผลกระทบมากในวันที่ 4 มกราคม ความเร็วลมมากถึง 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยภาคใต้หลายจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวัง เช่นจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล จะมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ซึ่งจังหวัดที่จะได้รับผลกระทบมากและต้องเฝ้าระวังมากที่สุด คือ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และระนอง คาดว่า จะมีฝนตกหนักประมาณ 200 - 300 มิลลิเมตรต่อวัน ตลอดจนคลื่นลมในอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น และอาจเกิดคลื่นซัดฝั่งกำลังแรงความสูงคลื่นประมาณ 3-5 เมตร
นายสำเริง เปิดเผยว่า จากการประชุมวิเคราะห์สถานการณ์ แต่ละหน่วยงานเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า พายุจะเข้าอ่าวไทยและเริ่มมีฝนตกตั้งแต่วันที่ 3 เป็นต้นไปและคาดการณ์ว่าฝนจะตกหนักวันที่ 4-5 มกราคม และจะเบาบางในวันที่ 6 มกราคม ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยและกรมชลประทานที่รับผิดชอบเขื่อนต่างๆต้องประเมินสถานการณ์รับมือกับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้น ยอมรับว่าเป็นห่วงในเรื่องของปริมาณน้ำในเขื่อนปราณบุรีและเขื่อนแก่งกระจาน เนื่องจากทั้ง 2 แห่งนี้เคยเกิดปัญหาปริมาณน้ำล้นมาแล้ว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งพร่องน้ำให้ทันและประกาศให้กับประชาชนที่อยู่ด้านล่างทราบ ส่วนแนวทางป้องกันดินโคลนถล่ม จะมีเจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่องและการแจ้งเตือนตามจุดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง
จากที่หลายฝ่ายกังวลว่าพายุโซนร้อนดังกล่าวจะมีความรุนแรงเทียบเท่าพายุไต้ฝุ่นเกย์หรือไม่ นายสำเริง ระบุว่า ยังไม่มีความรุนแรงเท่ากับพายุไต้ฝุ่นเกย์ แต่ถือว่าเป็นพายุโซนร้อนที่มีความรุนแรงอยู่ โดยยังคงเป็นห่วง 3 จังหวัดคือชุมพร ประจวบ เพชรบุรี ซึ่งเป็นทางผ่านของพายุโซนร้อน
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ นายสำเริงจะเดินทางลงพื้นที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดตั้งศูนย์วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ