ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันพุธที่ 2 มกราคม 2562
+++วันนี้ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) หรือผู้แทน แถลงข่าวสรุปผลการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่2562 ยอดผู้เสียชีวิต เพิ่มเป็น 314 ราย นครราชสีมา มากสุด 14 ราย ส่วนยอดผู้บาดเจ็บพุ่ง 2,848 คน อุบัติเหตุรวม 2,761 ครั้ง "ศปถ.
+++ด้าน"กรมคุมประพฤติ" แจงเคานท์ดาวน์คืนเดียวจับเมาแล้วขับ 2,660 คดี ชี้ยอดรวมสะสม 5 วัน ทะลุ 6,000 กว่าคดี ประเดิมติดกำไล EM 66 ราย ระบุเข้าข่ายแอลกอฮอล์เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พร้อมใช้มาตรการเมาแล้วขับซ้ำซาก สั่งประเมินอาการติดสุรา
+++พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เผยมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในวันที่ 31 ธ.ค.61 พบผู้กระทำผิดเป็นรถจักรยานยนต์ 39,708 ครั้ง ยึดรถไว้ 732 คัน และส่งดำเนินคดี 34,439 คน รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์ส่วนบุคคล พบกระทำความผิด 34,836 ครั้ง ยึดใบขับขี่ไว้ 670 คน ยึดรถยนต์ 223 คัน ส่งดำเนินคดี 26,628 คน โดยตลอด 5 วัน (27-31ธ.ค.61) เจ้าหน้าที่ยึดรถแล้ว 3,684 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ 2,677 คัน และรถยนต์ 1,007 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเป็นรถจักรยานยนต์
+++นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมีจุดศูนย์กลางที่บริเวณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.9 ความลึก 2 เมตร เมื่อเวลา 22.39 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2561 เจ้าหน้าที่จากสำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยาของกรมชลประทาน ได้วิเคราะห์ข้อมูลค่าความแรงที่เกิดขึ้นจากสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวของกรมชลประทาน พบว่าเป็นค่าที่ต่ำกว่าค่าที่ใช้ในการออกแบบมาก ซึ่งเขื่อนทุกแห่งของกรมชลประทานได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้สูงถึง 7 ตามมาตราริกเตอร์ ดังนั้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อน ทั้งนี้สำนักสำรวจด้านวิศวกรรมและธรณีวิทยาได้ดำเนินการตรวจสอบและติดตามข้อมูลทางสถิติของค่าความเร่งสูงสุด ที่เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวอยู่เสมอ เพื่อประเมินเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในพื้นที่ประเทศไทย รวมทั้งแนวโน้มที่จะเกิดผลกระทบต่อเขื่อน เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อนมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนกรมชลประทาน
+++จับตาพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ที่จะประกาศออกมาในวันที่ 2 ม.ค.นี้ ซึ่งจะถือเป็นการนับหนึ่งถอยหลังสู่วันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เตรียม เปิดตัวผู้สมัครส.ส.ระบบเขตว่า ตามกฎหมาย เมื่อพรรคอนุมัติผู้สมัครส.ส.ทั้งหมดเสร็จแล้วต้องประกาศภายใน 7 วัน ดังนั้น รายชื่อ ผู้สมัครส.ส.เขตที่คณะกรรมการบริหารพรรคอนุมัติไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว จะประกาศให้ทราบต่อไปและจะประชุมผู้สมัครส.ส.เขตบัญชีรายชื่อ ในสัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ของเดือน ม.ค.นี้ ถ้าการเลือกตั้งไม่มีการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่า พรรคจะรักษาความเชื่อมั่นของประชาชนได้ มั่นใจว่า พรรคประชาธิปัตย์เป็นคำตอบสำหรับประเทศไทยหลังเลือกตั้งที่ไม่ต้องการหยุด อยู่กับที่ ไม่ต้องการเดินวนกลับไปที่เดิม และเรามั่นใจว่ามีคำตอบที่แก้ปัญหาของประชาชนในตอนนี้ คาดหวังว่าจะตรึงฐานเสียงของเราในพื้นที่ต่างๆ และทำให้คนที่ไม่เคยเลือกเรามาสนับสนุนมากขึ้น แม้บางพื้นที่ ที่เปลี่ยนผู้สมัคร เรายังเชื่อมั่นว่าจะรักษาฐานตรงนั้นไว้ได้
+++ส่วนปรากฏการณ์จับมือกับพรรคเพื่อไทย(พท.) เพื่อร่วมกันทำงานเพื่อประเทศชาติได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จุดยืนของเราเป็นเรื่องของบ้านเมือง เมื่อถามว่าถ้ากระแสของคนในบ้านเมือง เรียกร้องให้จับมือ เพื่อผ่าทางตัน กรณีไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตั้งรัฐบาลได้อยู่แล้ว ส่วนจะมีเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
+++คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย(พท.) ยังไม่มีการพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ขณะนี้ต้องเสนอนโยบายให้กับประชาชน ส่วนกระแสข่าวที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ถูกวางให้อยู่ในบัญชี รายชื่อนายกฯ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทยแทน คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่กระแสข่าว แต่เราได้พูดคุยกันในพรรคแล้ว ตนกับนายชัชชาติจะทำงานด้วยกันและส่งเสริม ซึ่งกันและกัน
+++รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การเสนอรายชื่อนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น แม้คุณหญิงสุดารัตน์ จะถูกวางให้อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยดูจากผลสำรวจความนิยมในช่วงนั้นอีกครั้ง เนื่องจากผลโพลของพรรคล่าสุด สะท้อนว่า หากชูคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกฯ จะได้ประมาณ 190-200 ที่นั่ง แต่หากเป็นนาย ชัชชาติ จะได้ 220 ที่นั่ง จึงอาจมีการปรับยุทธศาสตร์ชู นายชัชชาติ เป็นนายกฯ ในการหาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย
++++น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ย้ำว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่เครื่องมือของใคร ที่ผ่านมาพรรคมีประสบการณ์ ทั้งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทำทุกบทบาท ดังนั้นพรรคชาติไทยพัฒนามีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่เป็นนั่งร้านให้ใครแน่นอน
+++สถาบันสิทธิมนุษยชนและ สันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม และมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะองค์กร ผู้อำนวยความสะดวกในการจัดพิธีลงนาม "สัญญาที่พรรค การเมืองขอให้ไว้แก่ประชาชน" ซึ่งมี 10 ข้อ ซึ่งมีพรรคการเมืองร่วมลงนาม 25 พรรค ไปแล้ว ล่าสุด ผู้อำนวยความสะดวก ได้ออกหนังสือเชิญชวนให้พรรคที่ไม่สะดวกมาร่วมลงนามในวันดังกล่าว ได้ร่วมลงนามเพิ่มเติม ตั้งแต่วันนี้-วันที่ 10 ม.ค. จากนี้จะเผยแพร่ "สัญญา" ผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่อศิลปะ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์
+++วันนี้เป็นวันแรกที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดให้ประชาชนที่จองสิทธิสินเชื่อโครงการบ้านล้านหลัง ในกลุ่มวงเงิน 5.9 หมื่นล้านบาท ยื่นเอกสารขอกู้เงิน ต้องติดตามการจองสิทธิครั้งนี้จะมีผู้ตกเกณฑ์คุณสมบัติที่จะกู้เงินจากธนาคารมากน้อยแค่ไหน