หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คาดได้ข้อสรุปรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งภายในสัปดาห์แรกเดือนนี้

แนวทางการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ หลังผ่านพ้นช่วงเทศกาลปีใหม่ 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันการทำงานภายใต้บรรทัดฐานที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 โดยคาดว่าการจัดสรรผู้สมัครจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์แรก ซึ่งขณะนี้มีอีกประมาณ 10 เขต ที่การจัดสรรผู้สมัครยังไม่เสร็จสิ้น พร้อมกล่าวถึงเขตที่ยังมีการจัดสรรผู้สมัครไม่ลงตัว เพราะมีผู้ประสงค์ลงสมัครมากกว่า 1 คน มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีกระบวนการพิจารณา ทั้งนี้หากจัดสรรผู้สมัครได้ครบทั้ง 350 เขต ก็จะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะมีการประชุม โดยคาดว่าจะประชุมภายในสัปดาห์ที่ 2 - 3 ของเดือนมกราคม 2562

ส่วนปัญหาการจัดสรรผู้สมัครในจังหวัดชุมพรเขต 1 ที่ยังไม่ลงตัว เพราะนายชุมพล จุลใส ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนทางการเมือง เนื่องจากในเขตเดียวกันมีนายสุพล จุลใส พี่ชายของนายชุมพล ลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชาติไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่ากรรมการบริหารพรรคยังไม่มีความเห็น เและนายชุมพลจะเข้าหารือกับรองหัวหน้าพรรคอีกครั้ง ทั้งนี้การที่พี่กับน้องลงสมัครในเขตเดียวกันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนถึงจุดยืนทางการเมือง แต่การที่ประชาชนจะเลือกหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการลงพื้นที่ทำกิจกรรมทางการเมืองของผู้สมัคร ก่อนหน้านี้นายชุมพลก็เคยได้แจ้งกับทางพรรคแล้วว่า พี่ชายจะลงสมัครในนามพรรคอื่น หากนายชุมพลประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้งก็คงไม่ใช่เขตเดียวกัน เพราะยังมีผู้สมัครอีกหลายคนที่อยากลงสมัครในพื้นที่

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น้อยกว่า 100 ที่นั่งจะแสดงความรับผิดชอบ ว่า ปัจจัยที่จะทำให้ได้จำนวนผู้สมัครมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนพรรคที่ส่งผู้สมัครและการนับคะแนนรูปแบบใหม่ หากคิดจาก ตัวเลขการเลือกตั้งครั้งล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ จะได้ผู้สมัครจำนวน 140 คน ซึ่งครั้งนี้ก็จะทำให้ได้มากกว่านั้น และพร้อมที่จะรับผิดชอบหากพรรคได้ผู้สมัครไม่ถึง 100 คน

ส่วนที่มีข่าวเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่สามารถจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งได้ทัน ยังไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะอะไรและยังไม่ทราบว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ แต่ กกต. ต้องสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

ส่วนกรณีแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยให้พรรคการเมืองใหญ่จับมือกัน เพื่อป้องกันการสืบทอดอำนาจ แล้วให้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การจะเป็นรัฐบาลแห่งชาติต้องมีความเห็นพ้องต้องกันทุกฝ่าย ขณะนี้ยังไม่มีเหตุผลที่จะทำให้การเมืองไทยต้องเดินไปถึงจุดที่มีรัฐบาลแห่งชาติ ขณะเดียวกัน สังคมโลกก็จับตามองการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตยของประเทศไทยว่าจะเป็นไปอย่างไร

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผลการพิจารณากรณีการครอบครองนาฬิกาหรู ของพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าสังคมส่วนใหญ่ยังกังขากับผลที่ออกมา เพราะคำอธิบายของป.ป.ช. ไม่ชัดเจน ซึ่งควรเปิดเผยว่าได้มีการนำประเด็นใดมาพิจารณาบ้าง รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับของที่มีมูลค่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องพิจารณาด้วยว่าลักษณะการยืมและการครอบครองเป็นไปในรูปแบบใด ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ มองว่าองค์กรอิสระควรปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ยึดถือกฎหมาย ไม่เช่นนั้นจะเผชิญกับวิกฤตศรัทธาจากประชาชนและจะมีปัญหาเดิมๆ เกิดขึ้นวนเวียนอย่างไม่จบสิ้น

...

ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม