รอยเตอร์รายงานอ้างนายสตีเฟน ฮิคส์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องแผ่นดินไหวจากมหาวิทยาลัยเซาแทมป์ตัน อังกฤษว่าการที่คลื่นสึนามิพัดถล่มพื้นที่ชายฝั่งทะเลทางตะวันตกของกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซียเมื่อคืนวันที่ 22 ธันวาคม มีคนเสียชีวิตแล้ว 430 ศพ จะกระตุ้นให้รัฐบาลของหลายประเทศทั่วโลกกลับมาพิจารณาทบทวนว่า พวกเขาจะดำเนินการอย่างไร เพื่อยกระดับการเตรียมพร้อมให้มากขึ้นเพื่อรับมือกับคลื่นสึนามิ
เขาเชื่อว่าปัญหานี้จะกระตุ้นให้นานาชาติเริ่มทำการวิจัยเรื่องสาเหตุของคลื่นสึนามิและการเตรียมความพร้อมต่างๆให้มากขึ้น ตั้งข้อสังเกตว่าอินโดนีเซียแสดงให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่ามีหลายสาเหตุที่อาจจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังจะต้องศึกษาเรื่องนี้อีกมาก เพื่อให้ทราบปัจจัยร่วมอื่นๆ โดยเฉพาะสาเหตุร่วมอื่นๆยที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อนเช่น การปะทุของภูเขาไฟว่าจะก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ เนื่องจากที่ผ่านมาคลื่นสึนามิส่วนใหญ่จะเกิดจากเหตุแผ่นดินไหว
แต่ครั้งนี้การปะทุของภูเขาไฟอนัก กรากะตัวในบริเวณช่องแคบซุนดา ทำให้เกิดการสไลด์ตัวของดินใต้ท้องทะเล ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดคลื่นสึนามิสูง 5 เมตร(หรือ 16 ฟุต)ซัดเข้าพื้นที่ชายฝั่ง โดยที่ทางการอินโดนีเซียไม่ได้เตือนภัยให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ต่อมานายมูฮาหมัด แซดลี หัวหน้าสำนักงานธรณีฟิสิกส์ของอินโดนีเซียยอมรับว่าระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิที่อินโดนีเซียใช้อยู่ในปัจจุบันจะเตือนภัยเฉพาะกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวเท่านั้น