การนำเทคโนโลยีมาใช้ในคดีขับรถขณะเมาสุรา
นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรมคุมประพฤติได้นำ EM หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว รูปแบบกำไลข้อมือมาใช้กับผู้กระทำความผิด ตามที่ศาลมีคำสั่งให้ติด EM ในคดีเมาแล้วขับจำนวน 33 ราย ทั่วประเทศ ประกอบด้วยกรุงเทพฯ จำนวน 26 ราย ขอนแก่น 4 ราย และบุรีรัมย์ 3 ราย เริ่มดำเนินการติดตั้ง 1 มกราคม 2562 ซึ่งเครื่องนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย ในระหว่างผู้กระทำความผิดรอการจำคุก โดยใส่เครื่อง EM ที่ข้อมือแทนข้อเท้า ภายใต้เงื่อนไขผู้สวมใส่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 150 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เมื่อใส่เครื่องแล้วห้ามออกจากเคหสถานตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ระยะเวลา 15 วัน พร้อมรายงานตัวทำงานบริการสังคมจำนวน 24 ชั่วโมงหากใช้ใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน ปัจจุบันมีเครื่อง EM ทั้งสิ้น 4,000 เครื่อง โดยกระจายไปสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศแล้ว
ขณะที่สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ยอดสะสมรวม 4 วัน ระหว่างวันที่ 27-30 ธ.ค.2561 มีจำนวน 3,525 คดี โดยวันที่ 4 ในช่วง 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด มีคดีเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ จำนวน 207 คดี แบ่งเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 207 คดี ยอดสะสม 4 วัน จำนวน 3,049 คดี คดีขับรถประมาท ยอดสะสม 4 วัน จำนวน 37 คดี คดีขับเสพ ยอดสะสม 4 วัน 437 คดี คดีขับซิ่ง ยอดสะสม 4 วัน จำนวน 2 คดี ส่วนจังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุรา ยอดสะสม 4 วัน สูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 295 คดี จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 224 คดี และจังหวัดสกลนคร จำนวน 207 คดี
...
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม