ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.35น.วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม 2561

28 ธันวาคม 2561, 19:55น.


+++นายณัฐวุฒิ อ่อนน้อม  รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริหารการเดินรถ บขส. คาดว่า ตลอดคืนนี้ จนถึงเช้า 29 ธ.ค. จะเป็นช่วงที่มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่มากที่สุด  คาดว่า ภาพของการเดินทางใน  4 สถานี ทั้ง หมอชิต, สายใต้ใหม่ ,เอกมัย และ รังสิต อยู่ที่ประมาณ 1.9 แสนคน  บขส. จัดรถรองรับประชาชนเพิ่มขึ้น เป็น 8,289 เที่ยวต่อวัน ซึ่งจะรองรับผู้โดยสาร ได้ 1.8 ถึง 2 แสนคนต่อวัน ส่วนในบางเส้นทางที่มีรถไม่เพียงพอ ขณะนี้ ได้มีการสลับเปลี่ยนจัดรถมาวิ่งเสริมในเส้นทางที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก เชื่อว่าจะช่วยลดความแออัดและส่งประชาชนเดินทางสู่ภูมิลำเนาได้ทั้งหมด ส่วนเหตุผลที่ทำให้สัดส่วนการเดินทางช่วงปีใหม่ในปีนี้ที่มี ประชาชนขึ้นเหนือมากกว่าอีสานถึงร้อยละ 60 ชี้ว่า ปัจจัยจากสภาพอากาศที่เย็นลง



+++พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์  ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน  พร้อมด้วยนายบูรณ์ ฐาปนดุลย์ ผู้ตรวจการแผ่นดิน  และพ.ท.เทพจิต วีณะคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักสอบสวน 4 ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบระบบและมาตรการรักษาความปลอดภัยการขนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสาร หลังโหลดใต้ท้องเครื่องบินแล้วสูญหายบ่อยครั้ง โดยมีนาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการ  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมประชุม



+++ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่บรรจุภายในกระเป๋าเดินทางของผู้โดยสารให้รัดกุมยิ่งขึ้น  แม้ว่าขณะนี้จะมีมาตรการเชิงป้องกันไว้แล้ว เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิด เครื่องแบบเจ้าหน้าที่ผู้ขนถ่ายสัมภาระต้องไม่มีกระเป๋า ห้ามนำโทรศัพท์ติดตัว ยกเว้นอาหาร ยา หรือเงินเท่านั้น  จัดทหารและตำรวจเป็นสายตรวจ คอยตรวจตราการทำงานตลอดเวลา แต่ก็ยังพบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นมักทำกันเป็นขบวนการโดยอาจมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ในส่วนงานการขนถ่ายสัมภาระของผู้โดยสาร และในส่วนงานอื่น ๆ เกี่ยวข้อง   



+++พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) กล่าวว่า เนื่องจากในวันที่31ธ.ค.2561จะมีการจัดกิจกรรมเคาท์ดาวน์ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิร์ด ถนนราชดำริ คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก บช.น.จึงจำเป็นจะต้องมีการปิดการจราจรในถนนที่เชื่อมต่อกับบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า โดยจะเริ่มปิดการจราจรตั้งเวลา14.00น.ของวันที่31ธ.ค.2561จนถึงเวลาประมาณ01.00น.ในวันที่1ม.ค.2562



+++เจ้าหน้าที่จะปิดการจราจรบริเวณแยกราชประสงค์ทุกทิศทาง ปิดการจราจรถนนราชดำริตั้งแต่แยกราชดำริ-แยกราชประสงค์และตั้งแต่แยกประตูน้ำมุ่งหน้าแยกราชประสงค์ ปิดการจราจรในถนนเพลินจิต ตั้งแต่แยกชิดลม-แยกราชประสงค์ ปิดการจราจรในถนนพระราม1ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า-แยกราชประสงค์ ห้ามรถทุกชนิดผ่าน  บช.น. กำชับให้ผู้จัดงานจัดการพื้นที่และคืนผิวการจราจรให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติก่อนเวลา 06.00น.ของวันที่1ม.ค.2562เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนที่จะใช้เส้นทาง



+++สำหรับเส้นทางเลี่ยง ประชาชนสามารถใช้ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 4 หรือถนนพระราม1และเลี้ยวขวาที่แยกเฉลิมเผ่าเข้าถนนอังรีดูนังต์และออกถนนพระราม4ได้ตามปกติ ประชาชนที่จะมาร่วมงานสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าจะสะดวกมากที่สุด เนื่องจาก จุดจอดรถค่อนข้างมีน้อย



 +++พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า สถิติการดำเนินมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ ปี 2559-2561 ปรากฏว่าผู้กระทำผิดและรถที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ตลอดเทศกาลมีจำนวนสูงขึ้นทุกปี คือ ปี 2559 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 3,046 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 2,477 คัน และ รถยนต์ 569 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 3,0152 คน ปี 2560 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 4,354 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 3,118 คัน และ รถยนต์ 1,236 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 66,783 คน ปี 2561 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 6,326 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 4,823 คัน และ รถยนต์ 1,503 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 245,356 คน



+++สำหรับในวันที่ 27 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 68,526 ครั้ง ดำเนินคดี 4,443 ราย เจ้าหน้าที่เก็บรักษารถไว้ 88 คัน (จักรยานยนต์ 63 คัน และรถยนต์ 25 คัน) ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 95 คัน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 34 คน



+++นายออง มิน  เจ้าหน้าที่ทูตแรงงาน สถานทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย พาครอบครัวเด็กชาย ซูลุยผิว สัญชาติเมียนมา อายุ 2 ขวบ ที่เสียชีวิตในไร่อ้อยจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าพบตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อร้องขอให้เข้ามาช่วยดูแลคดี ตามที่ครอบครัว เคยไปร้องเรียนไว้ที่สถานทูต นายออง มิน ยอมรับว่าสถานทูตไม่ได้ติดใจสงสัยประเด็นการเสียชีวิตของเด็กชายซูลุยผิว เพียงแต่ทำตามขั้นตอนหลังจากครอบครัวมาร้องขอความช่วยเหลือเท่านั้น  ส่วนประเด็นเรื่องความมั่นใจการทำหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่และกองปราบ สถานทูตไม่สามารถแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ได้  



+++ด้านแม่เด็กชายซูลุยผิว กล่าวผ่านล่ามถึงผลชันสูตรว่าถึงแม้จะออกมาตรงกับ 2 ครั้งแรก ก็ยังคงมีประเด็นสงสัย แต่หากผลชันสูตรต่างจาก 2 ครั้งแรก จะดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้อง



+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดบ่าย ปรับขึ้น 15.51 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,563.88 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,223.65 ล้านบาท



+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดลดลง 62.85 จุด ปิดที่ระดับ 20,014.77 จุด วันทำการวันสุดท้ายของปี 2561 เนื่องจาก นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวานนี้

+++ดัชนีฮั่งเส่ง ฮ่องกง เพิ่มขึ้น 25.32 จุด ปิดที่ 25,504.20 จุด ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้



+++รอยเตอร์ รายงานว่า ข้อมูลจากรัฐบาลของหลายประเทศในเอเชียและผู้ประกอบธุรกิจเรือบรรทุกน้ำมันดิบ บ่งชี้ว่า หลายๆประเทศที่เป็นผู้ซื้อรายหลักๆในเอเชีย  เช่น ประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลดลง เดือน พ.ย. นำเข้าน้ำมันดิบ ราว 664,800 บาร์เรลต่อวันลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 12.7 นับว่าต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี



+++รอยเตอร์ ตั้งข้อสังเกตว่าการนำเข้าน้ำมันดิบที่ลดลงนั้นเป็นผลจากการที่สหรัฐฯบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อเดือนที่แล้ว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เชื่อว่า การนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของหลายประเทศในเอเชียในเดือนนี้จะเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐฯยอมผ่อนผันให้ 8 ประเทศ รวมถึงประเทศจีน อินเดีย เกาหลีใต้และไต้หวัน ได้รับการยกเว้นจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเป็นเวลา 180 วัน โดยรัฐบาลสหรัฐฯมองว่าทั้ง 8 ประเทศดังกล่าวให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯมาโดยตลอด



+++ข้อมูลที่รอยเตอร์รวบรวมมาแสดงให้เห็นว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ไม่มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านรวม 3 เดือนติดต่อกันเมื่อเดือนที่แล้ว



+++ขณะเดียวกันเมื่อเดือนพ.ย.อินเดีย นำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน ลดลงร้อยละ 40 เมื่อเทียบจากเดือนตุลาคม ส่วนประเทศจีน น้ำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน 390,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนต.ค. 247,000 บาร์เรลต่อวัน นับว่าต่ำที่สุดในรอบกว่า 5 ปี



แฟ้มภาพ  

ข่าวทั้งหมด

X