พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ได้จัดตั้งจุดตรวจตามเส้นทางคมนาคม บนถนนสายหลัก สายรอง ทางตรงระยะยาว หรือจุดเสี่ยงจุดล่อแหลมที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ใช้เส้นทางอย่างปลอดภัย เน้นป้องกันไม่ให้มีการดื่มสุราแล้วขับรถ ทั้งนี้ หากตรวจพบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่จะใช้การชี้แจง แนะนำให้ยุติการใช้รถ ติดต่อญาติหรือผู้นำชุมชนมารับทราบเหตุ หากจำเป็นเจ้าหน้าที่จะนำรถไปเก็บรักษาไว้ก่อน ณ สถานที่ที่จัดเตรียมไว้พร้อมดูแลป้องกันความเสียหายของรถ เช่นการลงทะเบียน บันทึกภาพ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทั้งนี้เจ้าของรถสามารถติดต่อขอรับรถคืนได้หลังเทศกาล
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สถิติการดำเนินมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งแต่ ปี 2559-2561 ปรากฏว่าผู้กระทำผิดและรถที่เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้ตลอดเทศกาลมีจำนวน สูงขึ้นทุกปี คือ ปี 2559 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 3,046 คัน แยกเป็นจักรยานยนต์ 2,477 คัน และ รถยนต์ 569 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 3,0152 คน ปี 2560 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 4,354 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 3,118 คัน และ รถยนต์ 1,236 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 66,783 คน ปี 2561 เจ้าหน้าที่นำรถไปเก็บรักษาไว้ 6,326 คัน แยกเป็นรถจักรยานยนต์ 4,823 คัน และ รถยนต์ 1,503 คัน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด 245,356 คน
สำหรับในวันที่ 27 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของมาตรการนี้ พบว่ามีผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท 68,526 ครั้ง ดำเนินคดี 4,443 ราย เจ้าหน้าที่เก็บรักษารถไว้ 88 คัน (จักรยานยนต์ 63 คัน และรถยนต์ 25 คัน) ยึดใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 95 คัน และยึดใบอนุญาตขับขี่รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ 34 คน
แฟ้มภาพ