+++เหตุระเบิดบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของ จ.สงขลา ที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ตรวจสอบพบจุดที่เกิดระเบิด อยู่ตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือกทองและรูปปั้นหนูกับแมว อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร และเป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแหลมสมิหลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ไปในวันนี้แล้ว กำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุ หากตามตัวได้แล้วจะเล่าให้ฟัง การกระทำดังกล่าวคาดว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ในช่วงปีใหม่ ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน่วยงานด้านความมั่นคงไม่ได้รับแจ้งมาก่อน ขอให้รอผลการตรวจสอบให้ชัดเจน
+++มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพบระเบิดทั้งหมด 6 ลูก มาพบในช่วงเช้าอีก 4 ลูก ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและได้ทำลายแล้ว นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เรียกประชุม สั่งการให้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยงของ จ.สงขลา สูงสุดโดยเฉพาะใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งจะมีการจัดงานเคาท์ดาวน์เพื่อเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนบรรยากาศในพื้นที่เกิดเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ยังคงสแกนพื้นที่บริเวณชายหาดแหลมสมิหลาทุกตารางนิ้วทั้งบริเวณจุดเกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบเพราะอาจจะมีระเบิดหลงเหลืออยู่ ขณะนี้ จำเป็นต้องปิดพื้นที่ชายหาดแหลมสมิหลาอีกระยะหนึ่งเพื่อให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเคลียร์พื้นที่จนกว่าจะมั่นใจว่าปลอดภัยสูงสุด และวางแผนซ่อมแซมรูปปั้นนางเงือกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจ.สงขลา ที่ถูกระเบิดเสียหาย
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับการเมือง
+++ส่วนที่เมื่อเช้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรีและ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องในโอกาสปีใหม่ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.เปรม ได้ให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล โดยขอให้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป
+++ ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ออกแถลงการณ์คำชี้แจงเรื่องตั้งฉายารัฐบาล – นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ประจำปี 2561 ว่า ตามที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล มีธรรมเนียมปฏิบัติในการตั้งฉายาของรัฐบาล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ในช่วงปลายปี เพื่อสะท้อนการทำงานของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในรอบปี อย่างไรก็ตาม แม้รัฐบาลปัจจุบันจะบริหารราชการแผ่นดินมานานแล้วกว่า 4 ปี แต่ก็เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จากการหารืออย่างรอบด้าน ประกอบกับการพิจารณาตามธรรมเนียมปฏิบัติ ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล จึงมีมติงดตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปี 2561 เพราะนอกจากจะเป็นหลักปฏิบัติตามธรรมเนียมที่ยึดกันมา ยังมีข้อจำกัดทางข้อกฎหมายและบรรยากาศการเมืองในภาวะที่ยังถือว่าไม่ปกติ อีกทั้งยังมีความเห็นว่าหากมีการตั้งฉายารัฐบาล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี อาจถูกนำไปขยายความขัดแย้ง เชื่อมโยงหรือขยายผลในทางการเมือง ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย จนอาจตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
+++ทั้งนี้ หลักปฏิบัติที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่เริ่มแรก ว่าจะไม่มีการตั้งฉายารัฐบาล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำปี กรณีที่เป็นรัฐบาลรักษาการ ภายหลังนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาฯ หรือกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงจนรัฐบาลยังทำงานไม่ครบปี กรณีรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจหรือรัฐประหาร และกรณีสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ในภาวะไม่ปกติ อย่างไรก็ตาม การงดตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรีประจำปีของผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง เช่น ในปี 2549-2550 รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาจากการรัฐประหาร ในปี 2551 รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในปี 2556 รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากมีการประกาศยุบสภา ในปี 2557 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาจากการรัฐประหาร เป็นต้น
+++ตำรวจเยอรมันที่เมืองเซเทลที่เป็นเมืองเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ได้รับโทรศัพท์สายด่วนจากเด็กชายอายุ 9 ขวบ ในคดีที่พิเศษอย่างยิ่ง เมื่อเขาบอกให้ตำรวจจับกุมซานตาคลอสเพราะของขวัญที่เขาได้รับในเช้าวันคริสมาสต์ไม่ได้ใกล้เคียงกับของขวัญที่เขาขอจากซานตาคลอสแม้แต่นิดเดียว ฝ่ายตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุเร่งรีบไปสอบถามเด็กชายที่กำลังโกรธเป็นอย่างมาก หลังการสอบถามในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ จึงตรวจสอบของขวัญที่เด็กชายได้รับเปรียบเทียบกับรายการของขวัญที่เขาเขียนให้กับซานตาคลอส ซึ่งพบว่าไม่ตรงกันจริง
+++โฆษกตำรวจเยอรมนีเมืองเซเทล ยอมรับว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริง และ เปิดเผยด้วยว่า เพื่อป้องกันความขัดแย้งภายในครอบครัว เจ้าหน้าที่ จึงต้องใช้กระบวนการเจรจา ด้วยการบอกกับเด็กชายว่า ซานตาคลอสอาจเกิดความสับสนทำให้ส่งของขวัญเขาสลับกับเด็กอีกคน อย่างไรก็ตาม ตำรวจเมืองเซเทล ไม่ยอมเปิดเผยว่าเด็กชายต้องการของขวัญอะไร