การใช้ประโยชน์กัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ หลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติผ่านกฎหมาย นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงประเด็น “กัญชา” ว่า ร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ...เป็น การผ่อนปรนกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา คือ การให้แพทย์นำไปใช้รักษาโรค และเพื่อการศึกษาวิจัย สร้างองค์ความรู้ใหม่ แต่ กัญชา และกระท่อม ยังคงเป็นยาเสพติดให้โทษ
จากนี้ ป.ป.ส. กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการจัดตั้งคณะทำงาน 4 คณะย่อย เพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูล แนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทั้งเรื่องการคัดเลือกสายพันธุ์กัญชา วิธีการปลูก การจัดสร้างโรงเรือน การควบคุมอุณหภูมิ การควบคุมการเจริญเติบโตของต้นกัญชา การสกัด การใช้ทางการแพทย์ (ต้องคำนึงถึงแพทย์ ผู้ป่วยและประชาชน) และการควบคุม เพื่อรองรับการผ่อนปรนดังกล่าว จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจน จนสามารถบริหารจัดการเป็นความรู้ ภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ ตามหลักวิชาการและกฎหมาย เช่น จะต้องวางแผนให้ชัดเจนทั้งใน ด้านการปลูกและการแปรรูป โดยจะเริ่มต้นจากกำหนดปริมาณผู้ป่วยที่ต้องการยา จากนั้นจึงจะนำมาคำนวณเพื่อกำหนดปริมาณการแปรรูป และนำไปคำนวณพื้นที่การปลกโดยผู้ที่จะขออนุญาตปลูกกัญชาได้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายระบุไว้เท่านั้น ย้ำว่าบุคคลทั่วไป ปลูกกัญชาเองไม่ได้ผิดกฎหมาย
สำหรับ การพิจารณาพื้นที่ที่จะขออนุญาตให้ปลูกเป็นไปตามกฎกระทรวง คือ ต้องเป็นพื้นที่ปิด ที่สามารถดูแลจัดการได้ มีความปลอดภัย เพื่อให้ได้กัญชาที่ดี มีคุณภาพและมาตรฐานที่จะนำไปผลิตเป็นยาได้
เลขาธิการ ป.ป.ส. ขอให้ประชาชนเข้าใจถึงการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งกระทรวงยุติธรรม ได้เสนอนายกรัฐมนตรี แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์กัญชา เพื่อพิจารณาแนวทางการรองรับเพื่อการควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ในทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ของผู้ป่วย ประชาชน และประเทศชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ใหม่ ด้านการแพทย์และการศึกษาวิจัยกัญชาโดยให้มีการทดลองในมนุษย์ รวมไปถึงการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมยาที่ครบวงจรให้สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ