ร่วงระนาว! หุ้นสหรัฐฯ กังวลเศรษฐกิจเสี่ยงเกิดการชัตดาวน์

22 ธันวาคม 2561, 07:56น.


การลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ ปิดตลาดในวันสุดท้ายของสัปดาห์ ร่วงลงมาอย่างหนัก นับเป็นอีกสัปดาห์ที่ภาวะการซื้อขายหุ้นร่วงหนักที่สุดในรอบสิบปี เนื่องจาก ปัจจัยลบหลายด้าน ทั้งความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน หลังนายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สหรัฐฯและจีน อาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างกันได้ หากว่าจีนยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)  และความเป็นไปได้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่รับรองร่างกฎหมายงบประมาณประจำปีชั่วคราวจนนำไปสู่การชัตดาวน์รัฐบาล



ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรส ผ่านร่างงบประมาณสำหรับการก่อสร้างกำแพงปิดกั้นชายแดนสหรัฐฯกับเม็กซิโก หากไม่ผ่านร่างงบประมาณ รัฐบาลอาจจำเป็นต้องปล่อยให้หน่วยงานบางส่วนถูกปิดทำการเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ หรือ ชัตดาวน์ เพื่อแลกกับความมั่นคงตามแนวชายแดน



นอกจากนั้น นักลงทุน ยังวิตกเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างช้าๆ จึงเลี่ยงที่จะลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร ส่งผลให้ปิดตลาด ดัชนีแนสแดค ร่วงลงจากเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม เกือบร้อยละ 22 และต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 โดยหุ้นของเฟสบุ๊ก ร่วงลงร้อยละ 6.3 อเมซอน ลดลงร้อยละ 5.7 เน็ตฟลิกซ์ ลดลงร้อยละ 5.4 เช่นเดียวกับหุ้นของแอปเปิ้ลและกูเกิลต่างก็ร่วงลงมากกว่าร้อยละ 3 ปิดตลาดดัชนีแนสแดค ปรับตัวลดลง 195.41 จุด มาอยู่ที่ 6,333.00 จุด



ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดปรับตัวลดลง 50.84 จุด มาอยู่ที่ 2,416.58 จุด ลดลงร้อยละ 17.5 จากวันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่ 20 กันยายน ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดตลาดลดลง 414.23 จุด อยู่ที่ 22,445.37 จุด ร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 และลดลงร้อยละ 16.3 นับจากวันที่ปิดตลาดสูงสุดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม



ทีมต่างประเทศ



CR:Reuters



 

ข่าวทั้งหมด

X