สรุปข่าว 12.30น.วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561

21 ธันวาคม 2561, 14:07น.


สรุปข่าว 12.30น.วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561



+++วันนี้ (21 ธันวาคม 2561) เวลา 09.00 น. บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์หอประชุมกองทัพบก (แห่งใหม่) เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยมี พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพบกให้การต้อนรับ สำหรับหอประชุมกองทัพบก (แห่งใหม่) เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพบกได้อย่างหลากหลาย เช่น การรองรับการจัดประชุม การจัดแสดงนิทรรศการและจัดงานพิธีสําคัญต่าง ๆ ตลอดจนรัฐพิธีทั้งจากภายในกองทัพบก และจากส่วนราชการภายนอก โดยสามารถรองรับผู้ใช้งานเป็นจํานวนมากได้ในเวลาพร้อมกัน และที่สำคัญอาคารหอประชุมกองทัพบก (แห่งใหม่) ยังเป็นอาคารต้นแบบที่ลดการใช้พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความเหมาะสม ทันสมัย สง่างาม และความความเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพบกตลอดไป



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ออกมาระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมลาออกจากตำแหน่ง ว่า เขาพูดของเขาคนเดียว ซึ่งนายกฯบอกแล้วว่าจะทำงานให้จบ ยืนยันหลังปีใหม่ไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรแน่นอน



+++นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ยืนยันว่า ททท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว และขอให้หยุดนำเสนอข่าวอันอาจทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเสียชื่อเสียง ซึ่ง ททท.อาจจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท ทั้งนี้ ททท. มีนโยบายในการใช้งบประมาณอย่างถูกต้องเหมาะสม คุ้มค่า และตรวจสอบได้ ดังนั้น ททท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าว เนื่องจากระเบียบด้านการเงิน ไม่สามารถกระทำได้ อีกทั้งการใช้งบประมาณในวงเงินดังกล่าว ต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการ ททท. ซึ่งมีขั้นตอนที่ชัดเจน ซึ่งไม่มีวาระการประชุมหรือวาระพิจารณาที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวพยายามพาดพิง ททท.มีส่วนในการสนับสนุนการระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จำนวน 3 โต๊ะ เป็นเงิน 9 ล้านบาท



+++ข้อเรียกร้องของพรรคการเมือง ที่ต้องการให้ใช้ มาตรา 44 แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ใช้พรรคเดียว เบอร์เดียว ในการสมัครรับเลือกตั้ง นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวาา นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนแล้วว่า จะไม่ใช้ มาตรา 44 และการจะแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญได้ คือ คณะรัฐมนตรี หรือ องค์กรที่รักษาการตามกฏหมายนั้นเป็นผู้เสนอ คือ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ขณะนี้ ไม่น่าจะทันกรอบเวลาการเลือกตั้ง ที่วางโรดแมปไว้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดขั้นตอนการแก้ไขเอาไว้ค่อนข้างยุ่งยากมาก โดยเมื่อเสนอมาแล้ว จะต้องดำเนินการตาม มาตรา 77 ก่อนเสนอมายังรัฐบาลและคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อพิจารณาเสร็จแล้ว จึงเสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แต่กว่าจะถึงกระบวนการดังกล่าว สนช. ก็หยุดพิจารณากฎหมายแล้ว ส่วนการจัดงานระดมทุนของพรรคการเมือง ว่า หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรที่รัฐบาลเข้าไปมีหุ้นส่วน ไม่สามารถเข้าไปบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ นอกจากภาคเอกชนเท่านั้น  เป็นหน้าที่ของ กกต.จะเป็นผู้ตรวจสอบ   ส่วนที่มีโหรสำนักต่างๆ ออกมาทำนายว่า ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถพูดได้ แม้จะมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง แล้ว เพราะเหมือนเป็นการคาดเดา แต่หากเป็นการสำรวจของโพลล์ของสำนักต่างๆ ที่เป็นสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จะทำได้เฉพาะช่วงก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น 



+++น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า  ยังมั่นใจว่าปีนี้ภาพรวมการส่งออกจะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 8 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แม้ว่า การส่งออกเดือนพฤศจิกายน 2561 จะมีมูลค่า 21,237 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลับมาติดลบอีกครั้งร้อยละ 0.95 หลังจากเดือนตุลาคมที่ผ่านมาขยายตัวถึงร้อยละ  8.7 เนื่องจากฐานการส่งออกสูงของสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ทำให้ติดลบร้อยละ 8  ส่งผลให้ภาพรวมการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมกลับมาติดลบร้อยละ 0.4 รวมทั้งสินค้าข้าวเดือนพฤศจิกายน 2560 ส่งออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์  ทำให้พฤศจิกายนปีนี้ติดลบร้อยละ 4.3 ภาพรวมการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรร้อยละ 8.4  จึงถือว่าเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบทางอ้อมเริ่มขยายวงกว้างขึ้นจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตวัตถุดิบที่จะต้องติดตามใกล้ชิด แม้ขณะนี้ผลจากมาตรการทางตรงของสหรัฐที่กระทบต่อการส่งออกของไทยทั้งโซล่าเซลล์และเครื่องซักผ้าเมื่อหักลบกับสินค้าที่ไทยได้ประโยชน์จากที่ส่งออกไปสหรัฐทดแทนประเทศจีน ทำให้เดือนพฤศจิกายนการส่งออกไปสหรัฐ ขยายตัวถึงร้อยละ 11.9 ขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 เดือน  ซึงไทยจะยังได้ประโยชน์  



+++หนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อระบุว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มีคำสั่งให้กองทัพสหรัฐฯ เริ่มถอนกำลังทหาร 7,000 นายออกจากอัฟกานิสถาน ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของการลดจำนวนทหาร 14,000 นายที่ประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานในปัจจุบัน  ต่อเนื่องจากที่เมื่อวันพุธประธานาธิบดี ทรัมป์ ประกาศชัยชนะเหนือกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในซีเรีย และให้ถอนทหารสหรัฐฯ ออกจากซีเรีย ที่เป็นสาเหตุให้นายจิม แมตทิส ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ก่อนการเลือกตั้งในปี 2559 ประธานาธิบดี ทรัมป์ ย้ำหลายครั้งว่าจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน แต่ในปีที่แล้วเขาให้เพิ่มกำลังทหารเนื่องจากกลุ่มตอลีบานมีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้น แต่ล่าสุดเขาให้ถอนทหารเนื่องจากได้รับชัยชนะเหนือกลุ่มก่อการร้ายแล้ว



 

ข่าวทั้งหมด

X