ทันสถานการณ์โลก ประจำวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561

ทันสถานการณ์โลก ประจำวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม 2561

+++เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.4 นอกชายฝั่งคาบสมุทรคัมชัตคา มีศูนย์กลางห่างจากเมืองนิโคลสโกเย บนเกาะเบริง ไปทางตะวันตก 82 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดิน 9 กิโลเมตร เบื้องต้นสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ(ยูเอสจีเอส) วัดความรุนแรงได้ระดับ 7.8 ก่อนปรับลดลงมาเหลือ 7.4 ศูนย์เตือนภัยสึนามิแปซิฟิก ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดคลื่นสึนามิที่เป็นอันตรายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ภายในรัศมี 300 กิโลเมตรตามแนวชายฝั่งของรัสเซีย แต่ต่อมาได้ประกาศยกเลิก

+++นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ของอิสราเอลว่ารัฐบาลอิสราเอล จะหาทางสกัดกั้นอิหร่านไม่ให้แผ่อิทธิพลทางทหารเข้าไปในซีเรียมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯจะถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรีย อ้างว่า สหรัฐฯมีชัยชนะในการทำสงครามกับกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรีย

+++ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอล จะขัดขวางอิหร่านด้วยการใช้เครื่องบินรบบินเข้าไปเหนือน่านฟ้าซีเรีย เพื่อสกัดกองกำลังรัฐบาลอิหร่าน ไม่ให้ลักลอบขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปให้กับกลุ่มฮิซโบลเลาะห์ของเลบานอน ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับอิสราเอล

+++นางฟลอเรนซ์ ปาร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมของฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลฝรั่งเศส จะยังคงกำลังทหารในพื้นที่ทางภาคเหนือของซีเรียต่อไป เนื่องจาก กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ยังไม่ถูกปราบปรามให้หมดไปจากแผนที่ และอาจจะกลับมาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของฝรั่งเศสในอนาคต ภารกิจการทำสงครามกับกลุ่มไอเอส ยังไม่เสร็จบริบูรณ์

+++ฝรั่งเศส เคยถูกสมาชิกกลุ่มไอเอสเข้าไปก่อเหตุโจมตีรุนแรงมาหลายครั้งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งมีพลเมืองฝรั่งเศสหลายร้อยคนไปเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศส มุ่งเน้นปราบปรามกลุ่มไอเอสมากเป็นพิเศษ พร้อมทั้งเข้าร่วมกับพันธมิตรที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำในการปราบปรามกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก ปัจจุบันมีทหารฝรั่งเศส 1,000 นาย รวมถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษประจำอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือของซีเรีย เพื่อปราบปรามกลุ่มไอเอสร่วมกับพันธมิตรอื่นๆเช่น กองกำลังชาวเคิร์ดและชาวอาหรับ

+++ในการแถลงข่าวประจำปีทางโทรทัศน์ของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย แสดงความกังวลว่าอาจจะมีความเสี่ยงเรื่องการแข่งขันผลิตอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น ข้อความตอนหนึ่งในการตอบคำถามเรื่องนี้ ผู้นำรัสเซีย กล่าวว่า หลายฝ่ายไม่สนใจและเพิกเฉยในเรื่องนี้ นายปูติน แสดงความหวังว่า มนุษยชาติจะมีจิตสำนึกร่วมกันมากพอที่จะไม่มีแนวคิดสุดโต่งในเรื่องนี้มากเกินไป พร้อมทั้งเตือนว่าการลดมาตรฐานขั้นต่ำที่เกี่ยวกับเรื่องการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ก็อาจจะนำพามนุษย์ไปสู่หายนะร้ายแรง รัสเซีย วิจารณ์แผนการของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเรื่องการถอนตัวออกจากสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง โดยมองว่าเรื่องนี้เสี่ยงทำให้ข้อตกลงการควบคุมอาวุธนานาชาติไม่มีผลบังคับใช้ต่อไป

+++ส่วนเรื่องปัญหาวิกฤติในซีเรีย นายปูติน เห็นด้วยกับการประเมินของนายทรัมป์ที่ว่า กลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในซีเรียแพ้สงครามอย่างราบคาบ

+++ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ร้อยละ 5 แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี จากความกังวลทางอุปทานล้นตลาดและแนวโน้มอุปสงค์อ่อนแอ ขณะที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยกระทบตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ปรับตัวลดลง ส่วนราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น

+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2017 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(20ธ.ค.) ปิดลบหนักเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ความเสี่ยงต่อภาวะชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาล ซ้ำเติมความกังวลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวปรับขึ้นดอกเบี้ยล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

+++ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 464.06 จุด (1.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 22,859.60 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 39.54 จุด (1.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,467.42 จุด แนสแดค ลดลง 108.42 จุด (1.63 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 6,528.41 จุดความเคลื่อนไหวดังกล่าวมึขึ้นหลังคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อวันพุธ(19ธ.ค.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ร้อยละ 0.25 สู่ระดับร้อยละ 2.25-2.50 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้

+++นอกจากนี้เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปีนี้ สู่ระดับ ร้อยละ 3.0 จากเดิมที่ร้อยละ 3.1 และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ ร้อยละ 2.3 จากเดิมที่ร้อยละ 2.5

+++ความกังวลของนักลงทุนยังถูกซ้ำเติมเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ต้องชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความ ส่งสัญญาณว่าเขาอาจจะวีโต้ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่สภาคองเกรสให้การอนุมัติ เพื่อหวังตอบโต้พรรคเดโมแครตที่ไม่ให้ความสำคัญต่อการจัดสรรงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก

+++เมื่อวันพุธ(19ธ.ค.) วุฒิสภาสหรัฐฯลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ให้การอนุมัติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล(ชัตดาวน์) วุฒิสภาได้ส่งร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ตามเวลาสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่ได้แสดงท่าทีบ่งชี้ว่าเขาจะลงนามในร่างกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ เนื่องจากไม่ได้บรรจุงบประมาณ 5,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกตามที่เขาต้องการ

+++ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(20ธ.ค.) ปิดสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน หลังความเคลื่อนไหวของตลาดทุนและการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 11.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,267.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++นายคริส วู๊ดรอฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสนามบินแกตวิกในกรุงลอนดอน อังกฤษว่า ผู้โดยสารจำนวนมากที่สนามบินแกตวิก หนึ่งในสนามบินของประเทศอังกฤษที่มีการจราจรทางอากาศคับคั่งที่สุดแห่งหนึ่ง มีปัญหาติดขัดในการเดินทางในช่วงนี้ หลังจากหลายเที่ยวบินถูกเลื่อนการเดินทาง เนื่องจากเจ้าหน้าที่สนามบิน ตรวจพบมีโดรนหลายลำบินอยู่ใกล้ๆสนามบิน จำนวนหลายครั้ง ตามกฎหมายของอังกฤษ การบินโดยใช้โดรน บินในรัศมี 1 กม.จากสนามบินถือว่าผิดกฎหมาย จนถึงตอนนี้ สนามบินยังต้องปิดการให้บริการ หลังจากที่พบโดรนทั้งหมด ถึง 4 ลำ

+++กรณีนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัทนิสสัน มอเตอร์ของญี่ปุ่นและนายเกร็ก เคลลี อดีตผู้บริหารของบริษัทถูกจับกุมในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ฐานแจ้งรายได้ต่ำเกินจริง ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่แล้ว เริ่มตั้งแต่ปี 2553 และพนักงานอัยการ ได้ชี้มูลความผิดทั้งสองคนแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จ พนักงานสอบสวนจึงขอขยายเวลาการควบคุมระหว่างการสอบสวนต่อไปอีกเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.และครบระยะเวลาการควบคุมตัว 10 วัน

+++ล่าสุด ศาลแขวงในกรุงโตเกียว มีคำสั่งไม่อนุญาตให้พนักงานสอบสวน ขยายเวลาการคุมขังระหว่างสอบสวนนายกอส์น เป็นครั้งที่ 3 ชี้ว่า เขาอาจจะได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการต่อสู้คดี แต่เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่าพนักงานอัยการในฐานะโจทก์จะอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้หรือไม่ โดยนายชิน คุคิโมโตะ รองหัวหน้าอัยการประจำกรุงโตเกียว ระบุแต่เพียงว่า สำนักงานอัยการจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมต่อไป ด้านบรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเค เพิ่มเติมว่า ถ้าหากศาลยกคำร้องคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของพนักงานอัยการและอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นายกอส์นและนายเคลลีจะถูกปล่อยจากห้องขังในวันนี้ หรือวันพรุ่งนี้