สรุปข่าว 12.30น.วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2561

สรุปข่าว 12.30น.วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม 2561

+++ความคืบหน้ากรณีนายอนุพงษ์ สืบสมาน นักท่องเที่ยวไทยเสียชีวิตในเหตุการณ์กราดยิง เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ที่เมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า  ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส รายงานว่า ร่างของนายอนุพงษ์ จะถูกส่งกลับถึงไทยในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยทางการฝรั่งเศส เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่สถานทูตจะช่วยติดตามประสานงานเรื่องเงินชดเชยจากกองทุนช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ก่อการร้ายของฝรั่งเศสให้ต่อไป

+++ข่าวนักท่องเที่ยวหญิงไทยถูกทำร้ายร่างกายที่ประเทศญี่ปุ่น น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงได้รับรายงานจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียวว่า ได้ตรวจสอบการรายงานข่าวของสื่อญี่ปุ่นเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวหญิงไทยรายนี้ และต่อมาได้รับแจ้งจากฝ่ายตำรวจญี่ปุ่นว่านักท่องเที่ยวหญิงไทยเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะนี้กำลังรอตำรวจรายงานผลและสาเหตุของการเสียชีวิต โดยกรมการกงสุลได้แจ้งมารดาผู้เสียชีวิตทราบแล้ว

+++ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค และฟูจิของญี่ปุ่น รายงานว่า พบสาวชาวไทยถูกทำร้ายร่างกายอาการบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในโรงแรมที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเจอาร์ อูกูอิซูดานิ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ธ.ค.รายงานข่าวระบุว่า ตำรวจเขตไทโตรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งจากพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ว่า ได้ยินเสียงผู้ชายและผู้หญิงมีปากเสียงกันจากนั้นได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องจากห้องพักซึ่งอยู่ที่ชั้น 5 ของโรงแรม ในที่เกิดเหตุ ตำรวจพบหญิงสาวชาวไทย อายุ 19 ปี นอนหมดสติอยู่บนพื้นห้องในสภาพเปลือยกาย มีร่องรอยถูกทำร้ายร่างกายและใบหน้า และพบชายชาวญี่ปุ่นอายุประมาณ 20 ปี นอนจมกองเลือดอยู่บนทางเท้าคอนกรีตใต้หน้าต่างของห้องพักดังกล่าว สภาพกะโหลกศีรษะแตก เบื้องต้นคาดว่า ผู้ชายคนดังกล่าวอาจกระโดดออกจากห้องพักที่พบหญิงสาวนอนบาดเจ็บอยู่ ทั้งคู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยสาวชาวไทยยังมีอาการสาหัส

+++ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำสั่งคดีที่ นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นคดีอาญา หมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ รับของโจร กรณีแย่งสิทธิในสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย.60 เลข 533726 จำนวน 1 ชุด 5 ใบ เป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาท หลังศาลพิจารณา มีคำสั่งคดีมีมูล โดยให้เหตุผลว่าพยานโจทก์ให้การสอดคล้องต้องกัน ขณะที่ศาลภาคร่วมพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงประทับรับฟ้อง สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย.61 ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องปาก พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภาค 7 เป็นคนสุดท้ายและในวันดังกล่าว ศาลได้นัดให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย จนมีคำสั่งคดีมีมูลประทับรับฟ้องไว้ทำการพิจารณาเพื่อพิพากษา ขณะที่ ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีนี้ ได้เตรียมหลักทรัพย์เงินสด 90,000 บาท เพื่อขอประกันตัวต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

+++นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ยืนยันนโยบายนำยางพาราในประเทศผลิตล้อยางตามโครงการช้อปช่วยชาติเป็นไปอย่างโปร่งใส ไม่ได้กีดกันบริษัทใดเข้าร่วมโครงการ ล่าสุดมีบริษัทแจ้งขอซื้อยางจากสถาบันเกษตรกร เพื่อเป็นวัตถุดิบทำล้อยางเพิ่มขึ้น  พร้อมเชิญชวนให้ผู้ผลิตล้อยางที่มีฐานการผลิตในประเทศไทยทุกรายเข้าร่วมโครงการดังกล่าวระหว่าง16 ธันวาคม 2561 - 15 มกราคม 2562  แต่มีบริษัทยางล้อบางบริษัทระบุว่าไม่สามารถทำตามเงื่อนไขของ กยท.ได้ เพราะเมื่อซื้อวัตถุดิบคือยางพาราแล้วต้องส่งตัวอย่างยางพาราดังกล่าวไปให้บริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศตรวจสอบคุณภาพและรับรอง ซึ่งจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน เลยช่วงเวลาของโครงการช้อปช่วยชาติ  โดยได้นำข้อเสนอของบริษัทเสนอต่อนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งนายกฤษฎาให้ข้อคิดเห็นว่าหากอนุมัติให้บริษัทที่ไม่ได้ซื้อยางพาราโดยตรงจากสถาบันเกษตรกรหรือ กยท. อาจขัดกับมติ ครม.หรือนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการซื้อยางพาราโดยตรงจากเกษตรกร ทำให้ไม่มีผลต่อการรักษาเสถียรภาพราคายางตามนโยบายของรัฐบาล

+++ศาลสหรัฐฯ พิพากษาลงโทษจำคุก 40 ปีนายอับดุลราห์มาน เอล บาห์นาซาวี อายุ 20 ปีชายชาวแคนาดา หลังจากที่เมื่อ 2 ปีก่อนศาลตัดสินว่ากระทำความผิดจริง 7 กระทงฐานก่อการร้าย ซึ่งเกี่ยวกับวางแผนวางระเบิดสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์ค และไทมส์สแควร์ เพื่อสร้างเหตุการณ์ 11 กันยายนขึ้นมาอีกครั้ง และสนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส ซึ่งทำให้เขาถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 แต่การตั้งข้อกล่าวหามีขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2560 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า นายเอล บาห์นาซาวี ร่วมนายทัลฮา ฮารูน พลเมืองอเมริกันที่พำนักอยู่ในปากีสถาน และนายรัสเซล ซาลิค ชาวฟิลิปปินส์ ในการวางแผนก่อการร้าย โดยนายเอล บาห์นาซาวี มีหน้าที่หาวัสดุและชี้สถานที่เป้าหมาย ส่วนนายฮารูนมีแผนการเดินทางมาสหรัฐฯ เพื่อร่วมการก่อเหตุ และนายซาลิคสนับสนุนการเงินให้แก่ทั้ง 2 คนในการก่อเหตุ นายเอลบาห์ซานาวี ถูกจับกุมในปี 2559 ขณะที่เดินทางมาถึงนิวยอร์คเพื่อเตรียมลงมือก่อเหตุ ส่วนนายฮารูนถูกจับกุมตัวที่ปากีสถานเมื่อเดือนกันยายน 2559 และนายซาลิค ถูกจับกุมตัวที่ฟิลิปปินส์เมื่อเดือนเมษายน 2560 ทั้ง 2 คนอยู่ในระหว่างการพิจารณาคำร้องส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในสหรัฐฯ