พรรคการเมืองเรียกร้องกกต.สนับสนุนการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเท่าเทียม

การประชุมหารือระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง พรรคการเมืองและสื่อมวลชน  ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561  

นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวก่อนหารือกับกกต. ถึงระเบียบการหาเสียงเลือกตั้งว่า มีความเป็นห่วงเรื่องป้ายหาเสียง ทั้งเรื่องจำนวน ที่กำหนดให้มีเพียง 2 เท่าของจำนวนหน่วยเลือกตั้งในเขต สวนทางกับเขตที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แม้กกต. จะจัดทำป้ายหาเสียงให้ส่วนหนึ่ง แต่ก็มองว่า กกต. ไม่ควรมายุ่งกับเรื่องนี้ควรทำเฉพาะการกำหนดพื้นที่ติดป้ายเท่านั้น และมีความเป็นห่วงกรณี กกต.ห้ามติดป้ายหาเสียงในรอยต่อเขตเลือกตั้งโดยอ้างว่าเพื่อป้องกันความสับสน เพราะมั่นใจว่าประชาชนจะไม่สับสน แต่หากสับสนก็ควรแก้ไขให้มีเบอร์เดียวทั้งประเทศ โดยจะแก้กฎหมายหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับ กกต. ซึ่งมองว่าการแก้ไขมาตรา 48 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ 

ส่วนรูปที่ปรากฏบนป้ายหาเสียง ที่กำหนดให้ผู้สมัครขึ้นรูปคู่เฉพาะกับหัวหน้าพรรค หรือบุคคลที่เสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น นายชูศักดิ์บอกว่า ไม่เป็นห่วงในสาระสำคัญ เพราะประชาชนเข้าใจประวัติพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับการแบ่งกลุ่มดีเบตปราศรัยนโยบาย โดยมีข่าวว่าจะแบ่งตามขนาดของพรรคการเมือง ทั้งที่ควรจะใช้วิธีการจับฉลากแบ่งกลุ่มเพื่อให้คละกันทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ 

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า ทาง กกต. ควรกำหนดกรอบที่จะสามารถอำนวยความสะดวกให้กับพรรคการเมืองหาเสียงได้เต็มที่ และควรมีความชัดเจนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียม โดยการอำนวยความสะดวกควรแบ่งออกช่วงก่อนรับสมัครเลือกตั้ง กกต. ควรให้ความรู้เรื่องระบบเลือกตั้งแบบใหม่  ต่อมาคือช่วงรับสมัครเลือกตั้ง ที่ควรตรวจสอบคุณสมบัติให้ชัดเจน ถ้าพบผู้ใดขาดคุณสมบัติก็ควรให้ดำเนินการ  และระยะที่ 3 ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง หากพบว่ามีผู้กระทำผิด ก็ควรให้ใบส้มทันที เพราะที่ผ่านมา กว่าจะดำเนินการกับผู้กระทำผิดได้ก็ผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้ว 

ส่วนเรื่องป้ายหาเสียง และข้อเรียกร้องจากพรรคการเมืองต่างๆ ให้ใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ  นายชินวรณ์ ยอมรับว่าจะทำให้การหาเสียงง่ายขึ้นแต่อยากให้ กกต. ยึดกฎหมายเป็นหลัก เพราะหากให้พรรคการเมืองไปตกลงกันเองตามที่ กกต. บอกมาคงไม่สามารถทำได้ เพราะทุกพรรคการเมืองย่อมมีการแข่งขันกัน และโดยภาพรวม หากกติกาสร้างความเท่าเทียมกันให้กับทุกพรรคการเมือง ก็พร้อมยอมรับทุกกติกา

..

ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี