ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 18 ธันวาคม 2561

18 ธันวาคม 2561, 06:13น.


เกิดเหตุระเบิดบริเวณสำนักงานของสถานีโทรทัศน์ SKAI TV ในเอเธนส์ ประเทศกรีซ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ  โดย SKAI TV  เป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ของกรีซ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจสื่อที่มีทั้งสถานีวิทยุและหนังสือพิมพ์รายวัน ตำรวจระบุว่า ได้รับโทรศัพท์แจ้งเตือนก่อนที่จะเกิดเหตุ และแรงระเบิดทำให้หน้าต่างอาคารแตกตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 6



อย่างไรก็ตามการก่อเหตุโจมตีธุรกิจ หน่วยงาน เจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองกรีซ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางการกรีซระบุว่า เหตุโจมตีครั้งนี้เป็นการทำร้ายประชาธิปไตย



นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักรกล่าวเตือนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่พยายามเรียกร้องให้จัดการทำประชามติเบร็กซิทในรอบที่ 2 ว่าจะเป็นการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนและจะสร้างความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ให้กับการเมือง ที่อาจทำให้ไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ เพราะจะสร้างความแตกแยกขึ้นภายในประเทศในช่วงเวลาที่เราควรจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อความเป็นเอกภาพ



ทั้งนี้ นายจอห์น เมเจอร์ และนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรก็อยู่ในกลุ่มผู้ที่ต้องการให้มีการทำประชามติใหม่เรื่องเบร็กซิท เพราะทำให้รัฐบาลตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก



ส่วนกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศมาตรการเพิ่มเติมในการยึดทรัพย์เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ 3 คน โดยกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์ละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่งผลให้รัฐบาลเกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ประณามว่า อาจปิดกั้นหนทางที่นำไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีไปตลอดกาล



ทั้งนี้สถาบันอเมริกาศึกษา กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ เผยแพร่แถลงการณ์ผ่านสำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ แสดงความชื่นชมต่อความพยายาม ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับเกาหลีเหนือ แต่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ มีการดำเนินงานอย่างคุกคาม จนกลายเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการและทำให้ทั้ง 2 ประเทศกลับไปสู่เส้นทางเดิม



ส่วนที่มาเลเซีย นายทอมมี โทมัส อัยการสูงสุดมาเลเซีย เปิดเผยว่าทางสำนักงานยื่นฟ้องคดีอาญาต่อธนาคาร โกลด์แมนแซคส์, นายทิม เลสเนอร์, นายโรเจอร์ อึ้ง อดีตพนักงาน โกลด์แมนแซคส์ พร้อมด้วยนางสาวจัสมิน ลู อดีตพนักงานกองทุนพัฒนามาเลเซีย หรือ วันเอ็มดีบี และนายโจ โลว์ นักการเงิน ฐานกระทำความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์ โดยโกลด์แมนแซคส์รับประกันการออกพันธบัตรของวันเอ็มดีบี 3 ครั้งในปี 2555 และ 2556 รวม 6,500 ล้านดอลลาร์ โดยได้ค่าธรรมเนียมรวม 600 ล้านดอลลาร์ เงินที่ได้จากการออกพันธบัตรถูกยักยอกไปรวม 2,700 ล้านดอลลาร์



ด้านโฆษกโกลด์แมนแซคส์ เปิดเผยว่า เป็นการกล่าวหาธนาคารอย่างผิด ๆ เพราะธนาคารไม่เคยกระทำความผิด ทั้งให้ความร่วมมือในการสอบสวนมาโดยตลอด



สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า เงินบาทของไทยมีแนวโน้มติดอันดับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ที่ปรับตัวดีที่สุดในปีนี้ ในบรรดาสกุลเงินจำนวน 22 สกุลที่มีการติดตามความเคลื่อนไหว โดยมีปัจจัยที่ดีหลายประการที่ช่วยสนับสนุนค่าเงินบาทไม่ได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีแนวโน้มใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน ตั้งแต่การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ และสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายในอนาคต นอกจากนี้ไทยมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดทุกเดือนนับตั้งแต่สิ้นเดือนกันยายน 2557 และมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 3 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.7 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี  ถือว่าอยู่ในกลุ่มสูงสุดในเอเชีย, ไทยมีการส่งออกเพิ่มขึ้นเกือบทุกเดือนทั้งในปีที่แล้วและปีนี้ โดยมีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นตัวจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจ, ต่อมาคือไทยมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศสูงถึง 203,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า 2 เท่าจากระดับที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ตั้งเกณฑ์ไว้ นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติมีแนวโน้มเป็นผู้ซื้อสุทธิพันธบัตรของไทยเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน, เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางเงินเฟ้อในระดับต่ำ



ในส่วนของหุ้นเอเชีย บลูมเบิร์ก วิเคราะห์ว่า หลังจากตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผันผวนตลอดปี 2561 ใน ปี 2562



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560



ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 67 เซนต์ ปิดที่ 59.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนหุ้นสหรัฐฯ มีแรงเทขายเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวโจมตีการทำงานของเฟด และเรียกร้องคณะกรรมการกำหนดนโยบายไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้คาดหมายกันว่าที่ประชุมเฟดจะมีมติขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วงกลางสัปดาห์



ดาวโจนส์ ลดลง 507.53 จุด หรือร้อยละ 2.11 ปิดที่ 23,592.98 จุด



เอสแอนด์พี ลดลง 54.01 จุด หรือร้อยละ 2.08 ปิดที่ 2,545.94 จุด



แนสแดค ลดลง 156.93 จุด หรือร้อยละ 2.27 ปิดที่ 6,753.73 จุด



ข่าวทั้งหมด

X