ไทยประสานกัมพูชา จับผตห.ปาระเบิดใส่ม็อบกปปส. เมื่อปี 2557 หนีกบดานกัมพูชา

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ผบช.สตม.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศปอส.ตร.) พร้อมด้วยคณะทำงาน และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานตำรวจกัมพูชา ร่วมกันจับกุมนายกฤษดา ไชยแค อายุ47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557 โดยจับกุมได้ที่ชายแดนไทย ใกล้กับด่าน จ.สระแก้ว ขณะพยายามหลบหนีเข้าเมือง

 จส.100 สอบถาม พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว แจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายไทย ลงพื้นที่มารับตัวคนร้าย เดินทางกลับมาดำเนินคดีต่อที่ สน.พญาไท พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า หลังจากควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ ก็ดำเนินการตามกฎหมายแจ้งข้อหาตามหมายจับ สิ่งสำคัญคือ เรื่องความสงบสุข เรื่องความเรียบร้อย  

การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจาก นายกฤษดา เป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข⁽(กปปส.) ขณะนั้นปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีนายถาวร เสนเนียม เป็นแกนนำควบคุมกำลังอยู่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก หลังก่อเหตุได้หลบหนีการจับกุมไปกบดานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน จนชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบความเคลื่อนไหวที่ประเทศกัมพูชา จึงประสานความร่วมมือการทำงานร่วมกันติดตามจับกุม จนผู้ต้องหา ทนแรงกดดันไม่ไหว ตัดสินใจข้ามกลับมาฝั่งไทย เพื่อมอบตัว และถูกคุมตัวได้ใกล้ด่านตม.สระแก้ว อ.คลองลึก

นายกฤษดา ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,กระทำให้เกิดการระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ,มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและให้ใช้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์,ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และฝ่าฝืน ประกาศ ข้อกำหนด ที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดออกนอกเคหะสถาน ตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 

รายงานระบุว่า จากการสอบปากคำนายกฤษดา ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ก่อเหตุความไม่สงบในช่วงระหว่างปี 2557 โดยทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าโรงพยาบาลราชวิถี และครั้งที่สอง ก่อเหตุบริเวณถนนบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.  นอกจากนี้ ยังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบทางการเมืองในหลายครั้ง 

นายกฤษดา ขอโทษคนที่ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การหลบหนีคดี ต้องหลบหนีตลอดชีวิต มีแต่ความหวาดระเแวง ต้องระวังทั้งเจ้าหน้าที่ และต้องระวังพวกเดียวกันด้วย เนื่องจาก มีค่าหัวจึงตัดสินใจมอบตัว 

(ภาพนายกฤษดา ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุมกปปส.ขณะนั้นปักหลักบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ)

Cr.Sethaharn 191 ไลน์ห้องกลุ่มข่าวเพื่อมวลชล ๒