ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา 07.30น. วันที่ 14 ธันวาคม 2561

14 ธันวาคม 2561, 06:54น.


+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เศรษฐกิจและสังคม เดินทางถึงนครหลวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว เพื่อประชุมร่วมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย-ลาว ครั้งที่ 3 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ธันวาคม เพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีและการเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญและการพัฒนาอย่างยั่งยืน รองรับและเผชิญความท้าทายโลกอนาคตแบบไร้รอยต่อ ผ่านความร่วมมือ 3 เสาหลัก ทั้งการเมือง ความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ ตามแผนแม่บทความร่วมมืออิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) รวมถึงด้านสังคมและวัฒนธรรม โดยไทยยินดีสนับสนุน สปป. ลาว ใช้ประโยชน์จากโครงการเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน สปป. ลาว ให้มากขึ้น และร่วมจัดทำแผนแม่บทพัฒนาการท่องเที่ยวข้ามแดน ดูแลแรงงาน สปป. ลาว อย่างเต็มที่



+++ทั้งนี้ ในการพูดคุยระดับทวิภาคี 2 ประเทศ จะได้มองถึงอนาคตที่ในปี 2563 จะครบ 70 ปีแห่งความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการส่งเสริมความร่วมมือในด้านการศึกษาพลังงานไฟฟ้า กฎหมาย ขนส่ง และการก่อสร้างสวนรุขชาติไทย – สปป. ลาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ 70 ปี



+++โอกาสนี้ ไทยและลาว จะร่วมพิธีมอบอาคารโครงการพัฒนาวิทยาลัยพลศึกษา สปป ลาว มูลค่า 50 ล้านบาท พร้อมส่งมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาฟื้นฟูจากเหตุอุทกภัยแขวงอัตตะปือ ในนาม "น้ำใจไทย สู่ สปป ลาว" 75 ล้านบาท และเยี่ยมชมผลงานความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้าครบรอบ  50 ปีด้วย



+++ความเคลื่อนไหวทางการเมือง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เปิดเผยว่า กกต.ได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาและนำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว ซึ่งหากโปรดเกล้าฯในวันที่ 2 มกราคม 2562 ตามที่เสนอ จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 และหลังจากที่พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งมีผลใช้บังคับแล้ว กกต.จะกำหนดวันสมัครและวันเลือกตั้ง จากนั้นการหาเสียงของพรรคการเมืองและผู้สมัครจะต้องนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่าย



+++การประชุมระหว่าง กกต.กับพรรคการเมือง ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ นอกจาก กกต.จะแจ้งว่าจะสนับสนุนอะไรได้บ้างแล้ว จะหารือเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้สมัครพรรคการเมืองควรเป็นเท่าใด จากเดิม 1.5 ล้านบาท จะขยับเป็น 2 ล้าน หรือ 2.5 ล้านบาท รวมถึงจะหารือเรื่องการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียด้วย



+++ขณะเดียวกัน นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กกต. เป็นประธานประชุมเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. มีผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดจากทั่วประเทศเข้าร่วมการประชุม พ.ต.อ.จรุงวิทย์  เปิดเผยว่า การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมการให้ ผอ.กกต.จังหวัด มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง ขณะนี้จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 51 ล้านคน  มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 96,000 หน่วย 



+++ภารกิจแรกที่แต่ละจังหวัดต้องจัดเตรียม  คือ ในจังหวัด จะมีหน่วยเลือกตั้งกี่หน่วย  ที่ตั้งของหน่วยเลือกตั้งจะอยู่ในตำแหน่งใดบ้าง แต่ละหน่วยจะรองรับผู้มีสิทธิประมาณ 1,000 ราย 



+++เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า นอกจากนี้ยังต้องเตรียมจัดทำป้ายไวนิลแนะนำตัวผู้สมัคร แผ่นป้ายขนาดใหญ่ที่จะให้ผู้สมัครแต่ละคนนำป้ายขนาด A3 มาติดประกาศแนะนำตัว  ซึ่ง ผอ.กกต.จังหวัด ต้องกำหนดสถานที่ให้ชัดเจน  เช่น หน้าที่ว่าการอำเภอ หน้าศาลากลางจังหวัด รวมถึงนับจำนวนแผ่นป้ายของผู้สมัคร



+++นอกจากนี้ ยังต้องจัดพิมพ์เอกสารแนะนำตัวผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง นโยบายพรรค และพรรคเสนอชื่อบุคคลใดเป็นนายกรัฐมนตรี นำมาเย็บเล่มเพื่อส่งให้ถึงทุกครัวเรือนที่มีสิทธิเลือกตั้ง ผอ.กกต.จังหวัดต้องเตรียมความพร้อม เพราะหาก กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 62  ก็จะเหลือเวลาอีก 70 วัน



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์  กล่าวถึง การพิจารณารูปแบบบัตรเลือกตั้งว่า ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงาน  คาดว่า จะเสนอให้ กกต.พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า ไม่ว่ากกต.จะมีมติเลือกใช้รูปแบบใด  สำนักงานก็ต้องบริหารจัดการให้ได้ อาจจะให้โรงพิมพ์ที่มีศักยภาพหลายแห่งเข้ามาพูดคุยถึงศักยภาพในการพิมพ์บัตร  และการรักษาความปลอดภัยของบัตรเลือกตั้ง โดยจะให้ความสำคัญสูงสุดกับประเด็นความปลอดภัยของบัตร เลือกตั้งเสร็จก็นับคะแนนที่หน่วยไม่เหมือนอดีตที่จะมีการยกหีบบัตรลงคะแนนไปนับในสถานที่นับคะแนน มีผู้สังเกตการณ์จากทุกพรรคการเมือง และประชาชนก็สามารถตรวจสอบได้ที่หน่วยเลือกตั้ง  และมีการรายงานผลจากหน่วยมายังส่วนกลาง  จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงผลคะแนน  



+++ส่วนการสังเกตการณ์ของผู้สังเกตการณ์จากต่างประเทศ เลขาธิการ กกต. คิดว่าจะมีการเชิญต่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์อย่างแน่นอน  ปกติเวลากกต.ได้รับเชิญให้ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศอื่น ๆ  ก็จะไปดูว่ามีการลงคะแนน และการหาเสียงอย่างไร  จะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการภายในประเทศของเขา



+++การเตรียมย้ายรัฐสภาจากถนนอู่ทองในไปเกียกกาย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมสถานที่ทำการชั่วคราว สนช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้คัดเลือกสถานที่สำหรับเป็นที่ประชุมชั่วคราว ของ สนช. เหลือ 3 ที่ คือ ห้องประชุม TOT ถนนแจ้งวัฒนะ ห้องประชุม ททบ. 5 และ ห้องประชุม UN ตามลำดับ โดยจะพูดคุยเพื่อหาเงื่อนไขที่ดีที่สุดมาเสนอที่ประชุมพิจารณาอีกครั้ง คาดว่า จะเคาะได้ในการประชุมครั้งหน้า วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม



+++นายสุรชัย กล่าวว่า  มีการวางแผนสำหรับการย้ายสถานที่ไว้ วันที่ 3-13 มกราคม 2562 เป็นช่วงขนย้ายของ และให้กรรมาธิการไปเริ่มประชุมที่อาคารสุขประพฤติ ถ.ประชาชื่น ตั้งแต่ 15 มกราคม 2562 ซึ่งได้ปรับปรุงห้องไว้ 38 ห้อง รองรับการประชุมได้ทั้ง 72 คณะ  ขณะที่ กลางปี 2562  ห้องประชุมที่รัฐสภาใหม่จะแล้วเสร็จ แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาช่วงรอยต่อนิดหน่อย



+++รองประธานสนช. ยอมรับว่า พอใจสถานที่จากการลงพื้นที่ TOT ถนนแจ้งวัฒนะ เพราะจุคนได้ถึง 670 ที่นั่ง และสามารถเสริมได้ถึง 750 ที่นั่ง เพื่อรองรับการประชุมรัฐสภาของสมาชิกชุดใหม่  กรณีที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ยังไม่สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ ยังไม่ได้ตั้งงบประมาณสำหรับเช่าสถานที่ไว้  แต่จะทำให้ประหยัดงบประมาณมากที่สุด ขณะเดียวกัน คำนึงเรื่องความพร้อม ความปลอดภัยของข้อมูลข่าวสาร ที่ต้องรักษาความลับไม่หลุดออกไปด้วย



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X