+++นายกรัฐมนตรีเอดูอาร์ ฟิลิปเป ของฝรั่งเศส กล่าวแสดงความเสียใจและไม่พอใจอย่างยิ่งจากเหตุกราดยิงในเมืองสตราสบูร์ก โดยเรียกว่าเป็นการก่อการร้าย
+++ชาวเมืองสตราสบูร์ก จุดเทียนไว้อาลัยให้กับผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุกราดยิงเมื่อค่ำวันอังคาร
+++อัยการกรุงปารีส เปิดเผยว่าคนร้ายคือ นายเชริฟ เชคัตต์ วัย 29 ปี เกิดในเมืองสตราสบูร์ก มีพี่น้อง 6 คน มีประวัติก่อคดีอาญา 27 คดี ส่วนใหญ่ก่อในฝรั่งเศส แต่ก็มีบางคดีก่อในสวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนี
+++หน่วยต่อต้านข่าวกรองในประเทศของฝรั่งเศส (ดีจีเอสไอ) เทียบเท่าสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) เฝ้าจับตาเขามาโดยตลอด และถูกขึ้นบัญชีจับตาผู้มีแนวคิดรุนแรงตั้งแต่ปี 2558 เพราะถูกล้างสมองในห้องขัง เขาเคยเข้าห้องขังฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์และเยอรมนีระหว่างปี 2551-2560 ข้อหาลักทรัพย์และโจรกรรม
+++น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง ความคืบหน้ากรณีนายอนุพงษ์ สืบสมาน ชาวไทยเสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่ฝรั่งเศส ว่ากระทรวงได้รับรายงานเพิ่มเติมจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 12 ธันวาคม ที่ปรึกษาฝ่ายกงสุลพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฝ่ายกงสุลของสถานทูตได้พบกับนางนัยนา ภรรยานายอนุพงษ์ ที่ศูนย์เฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินในเมืองสตราสบูร์กแล้ว ขณะนี้นางนัยนา มีความเข้มแข็งและมีสภาพจิตใจดีขึ้น โดยทางการฝรั่งเศสได้จัดทีมจิตแพทย์มาพูดคุยและคอยให้การดูแลนางนัยนาด้วย
+++เจ้าหน้าที่สถานทูต ได้ให้ความช่วยเหลือนางนัยนาในการให้ข้อมูลกับตำรวจฝรั่งเศสเมืองสตราสบูร์ก และให้ปากคำในส่วนที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบเอกเอกสาร ทั้งยังได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดและขั้นตอนการขอเงินชดเชยจากกองทุนช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์ก่อการร้ายของฝรั่งเศส พร้อมกับให้คำแนะนำรวมถึงอำนวยความสะดวกในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน
+++ขณะที่ตำรวจฝรั่งเศส แจ้งว่าขั้นตอนการชันสูตรศพนายอนุพงษ์จะใช้เวลาประมาณ 7 - 15 วัน ซึ่งสถานทูตจะติดตามความคืบหน้ากับทางการฝรั่งเศส และจะประสานเรื่องการส่งศพนายอนุพงษ์กลับประเทศไทยต่อไป
+++กรณีอัยการจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี สั่งฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่4 คดีเสือดำ ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย1.ฐานร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต3.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต4.ฐานร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต5.ฐานร่วมกันช่วยซ่อนเร้นช่วยพาเอาไปเสียหรือรับไว้ซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย และ6.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
+++นายวิทูล แย้มพราย นายกิจจา อาลีอิสเฮาะ นายปิยพัชร์ สายพิณ นายปราโมช เล้าเกตุกรรณ์ และนายวิภาช อัมพรกลิ่นแก้ว ทีมทนายความพร้อมด้วยนายยงค์ นางนที และ นายธานี ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ยกเว้นนายเปรมชัย ไม่ได้เดินทางมา เนื่องจาก ศาลอนุญาตให้พิจารณาคดีหลับหลังได้ โดยนายวิทูล พูดเพียงสั้นๆว่า ไม่มีอะไรๆ
+++นายสมเจตน์ อำนวยสวัสดิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 ภาค 7 นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการจังหวัดทองผาภูมิ พร้อมด้วยนายกฤษฎา ชูโต รองอัยการจังหวัดทองผาภูมิ พ.ต.ท.อำนาจ สุจริตชัย รองอัยการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะโจทก์ พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ.9อุบลราชธานี ที่ปรึกษาชุดฉก.พญาเสือ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร(ด้านตะวันตก) นายศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ หน.กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ น.ส.ดาราพร ไชยวัฒน์ ก็ได้เดินทางมาถึงศาลจ.ทองผาภูมิ
+++นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า วันนี้มาเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานโจกท์ ในเรื่องคดีมั่นใจ ยืนยันในหลักฐานข้อเท็จจริงอยู่แล้ว เนื่องจากมีประเด็นเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และเอกสารหลักฐาน ที่ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน ส่วนประเด็นที่ฝ่ายจำเลย ซักค้านว่านายเปรมชัย จำเลยที่1ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ก็เป็นเรื่องนายเปรมชัย แต่เรายืนยันว่าเหตุเกิดวันที่3กุมภาพันธ์ แล้วก็หลักฐานของเราชัดเจนอยู่แล้ว เรามีหลักฐานเชิงประจักษ์ให้ศาลได้เห็นว่า มีการชำแหละ มีการยิง การเตรียมของเข้าไป เตรียมอุปกรณ์เข้าไป เตรียมปืนเข้าไป เราก็มีหลักฐานให้ศาลได้เห็นเท่านั้นเอง
+++การสืบพยานฝ่ายโจทก์ในวันนี้ ศาลนัดสืบพยานรวม 3ปาก ประกอบด้วย นายศักดิ์สิทธิ์ น.ส.ดาราพร และนายชัยวัฒน์
+++ศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดสืบพยานโจทก์เป็นฝ่ายแรก รวม 10 นัด ตั้งแต่วันที่27-28-29-30พ.ย. และ วันที่6-7ธ.ค. วันที่11-12ธ.ค. และ ในวันที่13ธ.ค. วันที่18ธ.ค.2561 โดยพยานโจทก์มีทั้งหมด จำนวน32ปาก จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดสืบพยานจำเลยที่มีอยู่ จำนวน17ปาก รวม6นัด คือวันที่19-20-21-25-26-27ธ.ค.2561
+++นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการปลดล็อกการเมืองทำกิจกรรมว่ารัฐมนตรี 4 คนพร้อมเดินหน้าทำงานการเมืองตามกรอบที่เหมาะสม โดยไม่ใช้เวลาในตำแหน่งหน้าที่ไปใช้ประโยชน์ต่อพรรค พรรคพลังประชารัฐ พร้อมในการหาเสียงเลือกตั้ง และจะเริ่มทยอยเดินหน้างานของพรรค เช่น การเปิดนโยบาย เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. เป็นต้น ยืนยันว่า จะลาออกจากตำแหน่งแน่นอนเมื่อถึงเวลา เพราะต้องการลงมาทำงานการเมืองเต็มตัวอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ยังมีงานที่ต้องทำ และเวลานี้ก็คล้ายกับการอยู่ในสนามรบ จึงต้องเคลียร์งานให้แล้วเสร็จก่อนลาออก ไม่ได้มองว่าแม้ลาออกก็โดนด่า ไม่ลาออกก็โดนด่า วันนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 เมื่อถึงเวลาเราไปแน่นอน แต่ตอนนี้ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
+++ส่วนการทำไพรมารีโหวตเพื่อสรรหาผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ นายสุวิทย์ กล่าวว่า จะต้องมีการหารือกันในพรรคอีกครั้ง แต่ช่วงนี้แกนนำพรรค ต่างมีภาระจำนวนมาก จึงไม่มีโอกาสได้คุยกัน และยังไม่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นผู้ที่มีการคาดกันว่าจะถูกเสนอชื่อ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการปลดล็อกการเมืองแล้ว คิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แล้ว แต่ส่วนตัวไม่เคยคุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพียงการพูดคุยกันเรื่องงาน
+++พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ว่าวันนี้ในการลงพื้นที่เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเรื่องความก้าวหน้าในการดำเนินงานของรัฐบาลของทั้ง 5 จังหวัดและยังเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะของทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การจัดทำแผนโครงการในอนาคตรวมทั้งแผนแม่บทด้วย ไม่อยากให้ใช้คำว่ารัฐบาลเดินทางมาที่นี่เพราะเป็นช่วงของการหาเสียง การเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย อย่าทำให้รัฐบาลเสียหายในการพูดคุยให้ข่าว
+++นายกรัฐมนตรี เตรียมเข้าร่วมประชุมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการ ไทย-สปป ลาว วันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ เน้นส่งเสริมการเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อตามแผนแม่บท ACMECS พร้อมสนับสนุนให้ สปป. ลาว หลุดพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด
+++พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอย่างไม่เป็นทางการไทย-ลาว จะมีขึ้นวันพรุ่งนี้ (14ธ.ค.) เพื่อเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อให้ผู้นำร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศ และแสวงหาแนวทางความร่วมมือระหว่างกัน อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-ลาว ในโอกาสที่จะครบรอบ 70 ปี ในปี 2563 ซึ่งไทยให้ความสำคัญในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน
+++รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่นายกรัฐมนตรี จะนำเข้าหารือในการประชุมครั้งนี้ คือ การยกระดับความสัมพันธ์การเป็นหุ้นส่วนเพื่อความเจริญและการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ภายใต้ความร่วมมือบน 3 เสาหลัก คือ 1.ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และยกระดับจุดผ่านแดนระหว่างสองประเทศให้เท่าเทียมกัน 2.ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ตามแผนแม่บท ACMECS ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อรับมือความท้าทายในภูมิภาค เสริมสร้างความเชื่อมโยงด้านคมนาคม สนับสนุนนักลงทุนไทยไปลงทุนในลาว โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็น 2 เท่า ในปี 2564 และ 3.ด้านสังคมและการพัฒนา ซึ่งไทยจะสนับสนุนให้ลาวหลุดพ้นจากการเป็นประเทศพัฒนาน้อยที่สุด ด้วยการจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวข้ามแดนไทย-ลาว และการดูแลแรงงานลาวอย่างเต็มที่ตามกฎหมาย
+++หลังจากที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนุรักษ์นิยมของสหราชอาณาจักร 48 คนยื่นญัตติขับนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ ออกจากตำแหน่งเพราะไม่พอใจร่างเบร็กซิต แต่ผลการลงมติ นายกรัฐมนตรี ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อไปด้วยคะแนนเสียง 200 ต่อ 117 เสียง ซึ่งตามกฎหมายการที่นายกรัฐมนตรีได้รับชัยชนะในการลงมติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคจะไม่สามารถเรียกร้องให้มีการลงมติไม่ไว้วางใจอีกอย่างน้อยหนึ่งปี ซึ่งก่อนที่จะมีการลงมติ นายกรัฐมนตรีเมย์เปิดเผยว่า จะอยู่ในตำแหน่งจนกว่ากระบวนการเบร็กซิตจะเสร็จสิ้น และจะไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปในปี 2565 และกล่าวอีกครั้งหลังจากที่ทราบผลการลงมติว่า จะทบทวนการทำงานโดยจะนำเสนอเบร็กซิตตามแผนที่ประชาชนออกเสียงลงมติไว้ พร้อมรับฟังเสียงสมาชิกที่มีความกังวลและออกเสียงต่อต้านเธอ
+++ส่วนกลุ่มผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีเมย์ เตือนให้พรรคการเมืองเดินหน้าการทำงานต่อไป ขณะที่ นักวิจารณ์มองว่าการที่มีสมาชิกพรรคออกเสียงคัดค้านผู้นำมากถึง 1 ใน 3 ถือเป็นความเสียหาย
+++นายกรัฐมนตรี เปโดร ซันเชส แห่งเสปน ประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำรายปีอีกร้อยละ 22 โดยให้มีผลในเดือนมกราคม ปี 2562 ซึ่งเป็นการขึ้นค่าแรงมากที่สุดในรอบมากกว่า 40 ปี โดยผู้ใช้แรงงานจำนวนหลายล้านคนจะได้ค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจากเดิมปีละ 736 ยูโร (27,364 บาท) หรือ 835 เหรียญสหรัฐ มาเป็น 900 ยูโร (33,462 บาท) นายกรัฐมนตรี ซันเชส กล่าวว่า ประเทศที่มั่งคั่งไม่อาจมีแรงงานที่ยากจน โดยคณะรัฐมนตรีจะมีการพิจารณาลงมติปรับขึ้นค่าจ้างในการประชุมวันที่ 21 ธันวาคมนี้ หลังจากนั้นจะออกประกาศเป็นกฤษฎีกาโดยไม่ต้องผ่านการรับรองจากรัฐสภา ทั้งนี้ 1ยูโรเท่ากับ 37.18 บาท
+++คำประกาศของนายกรัฐมนตรีสเปน ยังมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อสลายความไม่พอใจของแรงงานที่เข้าร่วมการชุมนุมเสื้อกั๊กสีเหลือง นอกจากนี้ ค่าจ้างขั้นต่ำของสเปนในปัจจุบันยังมีอัตราที่ต่ำกว่าสหราชอาณาจักร เยอรมนีและฝรั่งเศส แต่ยังสูงกว่าอีกหลายประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปเช่นโปรตุเกส กรีซและโปแลนด์
แฟ้มภาพ