การกล่าวบรรยายในงานเสวนา "ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน" ในหัวข้อ "ทศวรรษหน้า ท้องถิ่นไทย" โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อระดมแนวคิดกำหนดเป็นนโยบายพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง นโยบายที่พรรคจะนำเสนอในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า นโยบายในขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว และเชื่อมั่นว่าดีกว่าทุกพรรคที่ตัวเองไปร่วมฟังดีเบตมา ทั้งนี้ พรรคมีนโยบายเน้นย้ำมาเสมอว่าต้องกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น แต่ไม่ใช่หมายถึงการจัดตั้งองค์กรท้องถิ่น อีกหลายหน่วยงาน แต่หมายถึงการแบ่งงานไปให้องค์กรต่างๆในท้องถิ่นที่มีอยู่แล้วมาช่วยแบ่งเบางาน โดยจะต้องมีกฎหมายควบคุมให้เกิดความโปร่งใส ทั้งนี้ แนวคิดของพรรคเกี่ยวกับการกระจายอำนาจท้องถิ่นแบ่งเป็นสองระดับ คือ ต้องมีองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นอกจากนี้ จำเป็นที่จะต้องมีการผลักดันกฎหมายป้องกันการคอรัปชั่นด้วย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึง 4 ปีของการรัฐประหารว่าในช่วงต้นมีการใช้มาตรา 44 เพื่อรวบอำนาจการบริหารงานท้องถิ่นไปอยู่ที่ส่วนกลางจำนวนมาก ทำให้กระบวนการกระจายอำนาจถอยหลังลงคลอง จนเกือบนำมาซึ่งการยุบอบต. ขณะที่อีกด้านก็มีกระแสการคอร์รัปชั่นที่พยายามสกัดกั้นการกระจายอำนาจด้วย
ส่วนที่รัฐบาล อ้างว่า จะมีการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน ก็พิสูจน์แล้วว่าการปฏิรูปไม่ได้สอดคล้องกับการกระจายอำนาจท้องถิ่น เพราะการปฏิรูปถูกร่างขี้นโดยคนที่ไม่เชื่อเรื่องการกระจายอำนาจ ส่วนนโยบายเศรษฐกิจที่มีการหว่านเงินลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท ก็พบว่าเงินที่ลงไปไม่ได้อยู่ที่ชุมชน แต่ถูกดึงกลับมาที่ส่วนกลางที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจมากกว่า ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำมีมากขึ้น ทั้งท้องถิ่นเองก็อยู่ภายใต้การกดดันของประชาชนในพื้นที่ โดยที่กฎหมายก็ไม่ได้เอื้ออำนวยในการปฏิบัติด้วย
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร