หัวหน้าปชป.เตรียมแก้ข้อบังคับพรรคเรื่องนโยบาย หลังปลดล็อค

หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เป็นเรื่องดีที่มีการปลดล็อค ซึ่งจากนี้ก็จะดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ตามปกติเกือบทั้งหมดแล้ว ขาดแต่เพียงสิ่งใดที่จะทำให้การเลือกตั้งส่อทุจริต เช่น การจัดเลี้ยง ก็ยังทำไม่ได้ ขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างการหาผู้สมัครส.ส. และจะมีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรคเกี่ยวกับรายละเอียดตัวนโยบายพรรคอีกครั้ง

ส่วนการลาออกของ 4 รัฐมนตรี มองว่า แม้ไม่มีกฎหมายบังคับให้ลาออก แต่ต้องเข้าใจว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่เหมือนชุดอื่น เพราะกฎหมายให้ข้อยกเว้นให้รัฐบาลมีอำนาจอย่างเต็มที่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง และยังเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจในรัฐบาลมาเล่นการเมืองได้ด้วย เห็นได้จากกรณี 4 รัฐมนตรี และที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับการเสนอเป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ที่ว่าต้องการยกระดับการเมืองไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ยังปฏิเสธจะตอบว่าพล.อ.ประยุทธ์ ควรประกาศตัวให้ชัดเจนเรื่องท่าทีทางการเมืองของตัวเองแล้วหรือไม่ โดยบอกเพียงว่าเป็นเรื่องตามกฎหมาย

กรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดทำนองว่ายินดีร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า พล.อ.ประวิตร ก็แค่บอกว่าเป็นเรื่องที่คุยกันได้ ไม่มีสิ่งใด แต่ส่วนตัวได้ยินมาว่าพล.อ.ประวิตร จะไม่เล่นการเมืองแล้ว ขณะที่กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟชบุ๊กเมื่อวานว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคก็เห็นด้วยว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ควรนำประเด็นนี้มาเล่นเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อหวังให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ที่สำคัญเป็นการเสนอแก้ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะนำสิ่งใดมาใส่แทน ทั้งนี้หากจะแก้ก็ต้องไปขอฉันทามติจากประชาชน และจะต้องได้รับการเห็นชอบจากสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ด้วย ส่วนตัวเชื่อว่า ประชาชนคาดหวังให้ประเทศเดินหน้าและมีรัฐบาลมาแก้ปัญหาให้ได้มากกว่ามามุ่งแก้รัฐธรรมนูญ

กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เสนอให้บัตรเลือกตั้งเป็นแบบพรรคเดียว เบอร์เดียว มองว่า หากทำได้จะเป็นเรื่องดี เพราะจะสะดวกกับประชาชน แต่คิดว่าคงทำได้ยาก เนื่องจากทุกพรรคไม่ได้ส่งผู้สมัครส.ส. ลงทุกเขต ส่วนตัวหวังให้มีทั้งชื่อคนและชื่อพรรคในบัตรเลือกตั้งด้วย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและป้องกันความสับสน ซึ่งก็เชื่อว่าไม่มีสิ่งใดยากต่อการตัดสินใจของกกต.

นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า นโยบายพรรคเป็นนโยบายสวัสดิการอย่างแท้จริงและเป็นสิ่งที่จับต้องได้ เช่น นโยบายเรียนฟรี พร้อมชี้ว่านโยบายต่างๆ ทั้งรถคันแรก, จำนำข้าว และนโยบายที่มีอยู่ของรัฐบาลในขณะนี้ ไม่ใช่นโยบายสวัสดิการที่แท้จริง และยืนยันมาตลอดว่าเป็นนโยบายที่ไม่ควรทำ ทั้งนี้ นโยบายพรรคจะเน้นไปที่การกระจายอำนาจและให้อิสระแก่ท้องถิ่น เพื่อหวังลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาต่างๆให้ได้มากขึ้น

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร