*คลัง เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจหลังปรับลดจีดีพีลงเหลือ1.7%*

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์  ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า  กระทรวงปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ร้อยละ 1.7 จากเดิมคาดโตร้อยละ 2 เนื่องจาก เศรษฐกิจโลกไม่ฟื้นตัวตามคาดและการส่งออกขยายตัวต่ำ ซึ่งกระทรวงพยายามหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบมากขึ้น เน้นการเบิกจ่ายภาครัฐให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 50 ของวงเงินงบประมาณไตรมาสแรก

ส่วนการปรับขึ้นอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)จากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10  ยืนยันว่า จะต้องพิจารณาให้รอบคอบว่ามีความจำเป็นต้องปรับขึ้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ เบื้องต้น มองว่าหากรัฐหารายได้ไม่เพียงพอต่อการจัดตั้งงบประมาณ คงต้องมีการปรับขึ้นอัตราภาษีอย่างแน่นอน          จากการศึกษาของกระทรวงการคลัง พบว่าหากมีการปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ 1 จะทำให้มีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 5-6 หมื่นล้านบาท, หากปรับขึ้นอีก ร้อยละ2 จะมีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท และหากปรับขึ้นอีกร้อยละ 3 จะมีรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 1.5-1.6 แสนล้านบาท การปรับขึ้นVATคงต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล

ความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างภาษีของกระทรวงการคลังว่า ขณะนี้ร่างภาษีมรดกแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 80-90  กฎหมายนี้มีทั้งข้อดีข้อเสนอ ซึ่งการจัดทำกฎหมายนี้ขึ้นมาเพื่อลดการเหลื่อมล้ำของสังคม และยังเป็นการช่วยปรับปรุงการจัดเก็บภาษีของไทยให้มีประสิทธิภาพ  โดยยืนยันอัตราจัดเก็บเดียวที่ ร้อยละ10 และคนมีมรดกไม่เกิน 50 ล้านบาท จะได้รับยกเว้น ส่วนคนที่จะถ่ายเทเงินไปต่างประเทศ ระวังไว้ด้วยว่าถ้าเอาออกไปแล้วจะไม่ได้เอากลับมา เพราะต่างประเทศมีกฎหมายที่ดูแลเรื่องนี้เหมือนกัน