สรุปข่าว19.30 น.วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561

11 ธันวาคม 2561, 19:22น.


สรุปข่าว19.30 น.วันอังคารที่ 11 ธันวาคม 2561



+++สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซี สื่อใหญ่ในอังกฤษ รายงานข่าวไปทั่วโลกว่า รัฐบาลทหารไทย ‘ปลดล็อค’ ยกเลิกการห้ามประชาชนและนักการเมืองเคลื่อนไหว ทำกิจกรรมทางการเมืองได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป หลังจากรอคอยกันมานาน โดยจากนี้ไป ประชาชนและบรรดานักการเมืองในประเทศไทยสามารถเคลื่อนไหวทางการเมือง และลงพื้นที่หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62  บีบีซี รายงานว่า การประกาศห้ามนักการเมืองเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทย มีขึ้นตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อรัฐประหารยึดอำนาจปกครองประเทศเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่รัฐบาลทหารไทยยืนยันมาตลอดถึงจุดมุ่งหมายของการก่อรัฐประหารในครั้งนี้ว่า เพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตยในประเทศไทย



+++พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ขอความร่วมมือจากพรรคการเมือง และทุกภาคส่วน ร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ตามหลักการประชาธิปไตย ใช้กระบวนการต่างๆอย่างเหมาะสม ยึดประโยชน์ของประเทศชาติในอนาคตเป็นหลัก ภายใต้การมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากมี คำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2561 เรื่อง "การให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง" ลงวันที่ 11 ธ.ค. 2561



+++นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงกรณี หัวหน้าคสช.มีคำสั่งปลดล็อคให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ว่า  เพิ่งทราบว่ามีคำสั่งคสช. แต่ยังไม่ได้อ่านอย่างละเอียด จึงยังไม่ขอให้ความเห็นว่าพรรคการเมืองสามารถดำเนินการใดได้บ้าง ขอกลับไปอ่านรายละเอียดและทำความเข้าใจให้เกิดความชัดเจนก่อน การที่คำสั่งดังกล่าวออกมาในวันนี้ ซึ่งตรงกับวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(พ.ร.ป.ส.ส.) มีผลบังคับใช้ ถือว่าเป็นจังหวะที่เหมาะสม ส่วนกรณีบัตรเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะพิมพ์แบบใด ประธานกกต. กล่าวว่า กกต.จะพิจารณาให้ได้ข้อยุติในเร็ววันนี้ คงใช้เวลาพิจารณาไม่นาน



+++นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เรื่องการปลดล็อคในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไร อันที่จริงควรมีการปลดล็อคให้พรรคการเมืองเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ ได้นานแล้ว แต่ที่ยังไม่ปลดล็อคก่อนหน้านี้เพราะเครือข่ายของตัวเองยังไม่พร้อม เมื่อพร้อมแล้วจึงค่อยมาปลดล็อคใช่หรือไม่ พร้อมขนาดรู้ล่วงหน้าถึงเตรียมจะจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อระดมทุนเข้าพรรคถึง 600 ล้านบาท ถือเป็นอีกหนึ่งอภินิหารทางกฎหมาย



+++นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ยืนยัน ให้ 4 รัฐมนตรีอยู่ต่อ เพราะหากลาออกไปจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทั้งนี้ส่วนตัวได้พูดคุยกับ 4 รัฐมนตรีแล้ว



+++ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการปลดล็อคการเมืองว่า การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทำได้หมดเว้นเรื่องการหาเสียง ดังนั้นจะดำเนินการอะไรต้องระมัดระวัง เชื่อว่า หลังจากปลดล็อคการเมืองแล้ว ถือว่าบรรยากาศดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการเปิดนโยบายพรรคต้องรอฟังจากทีมกฎหมายอีกครั้ง



+++ กรณี ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง หรือ “หมวดเจี๊ยบ” สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) ทำการติดตั้งป้ายเชิงลักษณะคล้ายการหาเสียง ซึ่งมีการนำข้อความสนับสนุนกิจกรรมอุ่นไอรัก ไปติดตั้งบริเวณทางเท้าบริเวณถนนโชคชัย 4 ถนนลาดพร้าววังหิน พื้นที่เขตลาดพร้าวเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม นางจินดารัตน์ ชโยธิน ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและโฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยืนยันว่า ระหว่างนี้ กทม.ยืนยันว่าไม่อนุญาตให้พรรคการเมืองนำป้ายทุกชนิดมาติดตั้งตามพื้นที่ต่างๆ จนกว่าพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เลือกตั้งจะประกาศบังคับใช้ กรณี ร.ท.สุณิสา หรือ หมวดเจี๊ยบ ซึ่งนำป้ายมาติดตั้งบนทางเท้า รวมทั้งสิ้น จำนวนประมาณ 250 ป้าย  สำนักงานเขตลาดพร้าวได้ดำเนินการให้เจ้าพนักงานเทศกิจดำเนินการเก็บป้ายโฆษณาแล้ว โดยเขตลาดพร้าวได้เรียก ร.ท.หญิง สุณิสา เปรียบเทียบปรับตามกฎหมายรวมทุกป้าย ไม่เกิน 5,000 บาทเท่านั้น ซึ่งในที่ประชุมผู้บริหารเห็นว่าเป็นการเปรียบเทียบปรับไม่สอดคล้องกับกฎหมาย จึงจะพิจารณาให้เปรียบเทียบปรับแบบป้ายต่อป้าย สูงสุดไม่เกินป้ายละ 5,000 บาท



+++นายพีระพล ถาวรศุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า  คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางเลื่อนเคาะปรับขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะไป 14 ธ.ค.นี้ แต่ต้องพิจารณามาตรการเยียวยาประชาชนเพิ่ม เมื่อมีการปรับขึ้นค่าโดยสารให้ผู้ประกอบการอีก 1 บาท  มีรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการวันนี้ได้มีการยอมรับถึงปัญหาต้นทุนที่ผู้ประกอบการแบกรับมานานและมีแนวทางที่เป็นไปได้ว่าจะอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสาร ในส่วนของรถร้อนอาจปรับขึ้น 1 บาท หรือจาก 9 บาท เป็น 10 บาท ขณะที่รถปรับอากาศปรับระยะละ 1 บาท จาก 13 -25 บาท เป็น 14-26 บาท ส่วนรถปรับอากาศรุ่นใหม่ ความเห็นของคณะกรรมการฯ หลายคนยังไม่ได้ข้อสรุป



+++นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (11 ธ.ค.) การรถไฟฯ ได้ประเมินซองข้อเสนอเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบินซองที่ 3(ด้านการเงิน) เรียบร้อยแล้ว แต่ ยังไม่สามารถเปิดเผยราคาได้ จนกว่าที่ปรึกษาจะทำการตรวจสอบเอกสารราคาจนครบถ้วนเรียบร้อย โดยคาดว่าจะสามารถประกาศผลราคาที่แน่นอนได้ภายในวันที่ 14 ธันวาคม 2561 หลังจากนั้นขั้นตอนสุดท้ายก่อนประกาศผู้ชนะจะต้องผ่านการเจรจาต่อรองกันก่อน และนำร่างสัญญา ส่งให้สำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าสามารถประกาศผลการประมูลเสร็จได้ภายในเดือนมกราคม 2562 



+++ก่อนหน้านี้ รฟท.ได้พิจารณาด้านเทคนิค ของผู้ยื่นข้อเสนอโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินไปแล้ว โดยพบว่าทั้ง 2 กลุ่มกิจการ  คือ  1. กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS), บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC), บมจ. ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH)

2. กิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร ประกอบด้วย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) , China Railway Construction Corporation Limited (สาธารณรัฐประชาชนจีน) , บมจ. ช.การช่าง (CK), บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)  มีคุณสมบัติครบถ้วนและได้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติด้านเทคนิค



+++ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,633.62 จุด  ลดลง 16.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,897.10 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกในประเด็นการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้า ในเรื่องการปลดล็อคพรรคการเมือง และกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน ส่วนปัจจัยเสี่ยงยังเป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีความเปราะบาง หลังจากที่มีการจับกุมผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ธ.ค.นี้  และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน ส่วนสัปดาห์หน้าก็ยังจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน (กนง.)



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากปัจจัยลบต่างๆ เช่น การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก และการที่รัฐบาลอังกฤษประกาศ เลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไม่มีกำหนด ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 128.98 จุด ที่ 25,623.40 จุด 



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบ 71.48 จุด แตะที่ 21,148.02 จุด



+++สถานีโทรทัศน์อินเดียทูเดย์ของอินเดียว่า ผลการนับคะแนนในเบื้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดีย หลังจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นใน 5 รัฐคือรัฐฉัตตีสครห์,รัฐมัธยประเทศ,รัฐราชสถาน,รัฐมิโซรัมและรัฐเตลังคานา โดยจัดการเลือกตั้งหลายช่วงคือ ระหว่างวันที่ 12 พ.ย.,20 พ.ย.และวันที่ 7 ธ.ค.บ่งชี้ว่าพรรคภาราติยะ ชะนะตะ หรือบีเจพี พรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นให้กับพรรคฝ่ายค้านคือพรรคคองเกรสของนายราหุล คานธี ใน 3 รัฐสำคัญคือ รัฐฉัตตีสครห์และรัฐมัธยประเทศทางภาคกลางของประเทศและรัฐราชสถานทางภาคตะวันตกของประเทศ ครั้งนี้ นับเป็นการแพ้การเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่นายโมดีเข้ามาบริหารเมื่อปี 2557 และเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก่อนจะถึงวันเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ข่าวทั้งหมด

X