ตำรวจ จับผู้ต้องหา 3 คดี หลอกผู้เสียหายผ่านทางFB และสวมบัตรประชาชนปลอมทำธุรกิจท่องเที่ยว

07 ธันวาคม 2561, 14:23น.


การจับกุมขบวนการรับตรวจเช็คทะเบียนราษฎร์ผิดกฎหมาย พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีผู้ใช้ Facebook ชื่อ รับเช็คทะเบียนรถยนต์ ออนไลน์ เช็คอายัดรวดเร็ว 24 ชั่วโมง มีการรับจ้างตรวจสอบข้อมูลและประวัติบุคคลผ่านออนไลน์เพื่อการแสวงหาประโยชน์โดยไม่ชอบ ตำรวจจึงสืบสวนจนทราบว่าขบวนการดังกล่าวมีผู้ร่วมกระทำความผิด 3 คน คือ ร้อยตำรวจโทบุญเสริม , นายทรงศักดิ์ และ น.ส.จินดารัตน์ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดมีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งเป็นผู้เช็คข้อมูลทางทะเบียนราษฏร์และนำข้อมูลส่งต่อให้กับลูกค้ารวมถึงมีการประสานงานบริการกับลูกค้า โดยคิดค่าบริการในการตรวจสอบครั้งละ 1,000 บาท แต่หากลูกค้า ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ว่ามีกี่คันหรือเคยแจ้งจดทะเบียนสมรสหรือไม่ จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,000 บาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการนำข้อมูลของหน่วยงานราชการมาเปิดเผยทำให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 17 การทะเบียนราษฎร พ.ศ. 2534 ข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร์ต้องถือเป็นความลับและให้นายทะเบียนเป็นผู้เก็บรักษาและใช้เพื่อปฏิบัติตามที่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติเท่านั้น ห้ามให้ผู้ใดเปิดเผยข้อความหรือตัวเลขนั้นแก่บุคคลใด ซึ่งไม่มีหน้าที่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้หรือแก่สาธารณชน





ขณะเดียวกันได้รับการร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีที่มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยโดยทำการสวมบัตรประจำตัวประชาชนไทย  สถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ตรวจสอบพบว่า นายสุรชัย แซ่ย่าง ประกอบธุรกิจนำเที่ยว บริษัทไทยนิวเจนเนอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด สวมบัตรประชาชนปลอมเป็นบุคคลอื่นเพื่อให้ตนเองมีสัญชาติไทย เบื้องต้นแจ้งข้อหา แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำผิดตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชน หรือ เอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนหรือแอบอ้างเอกสารอันเกิดจากการกระทำผิดดังกล่าว





นอกจากนี้ยังแถลงจับกุมนายชูเกียรติ มิ่งขวัญ ผู้ต้องหาแฮกเกอร์ที่ปลอมเฟซบุ๊กแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น หลอกผู้เสียหาย เติมเงินผ่านระบบทรูมันนี่ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า นายชูเกียรติ มีพฤติกรรมมาตั้งแต่ปลายปี 2559 หลอกลวงผู้เสียหายหลายพื้นที่ทั่วประเทศแล้วกว่า 300 คน เฉลี่ยวันละ 5 ราย กระทำผิดเพียงคนเดียว ตั้งแต่เปิดบัญชี รับโอนเงิน และ ถอนเงิน ที่ได้จากการกระทำผิด





ผู้ต้องหา ยังมีการนำเอาเลขบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิตหรือบุคคลที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก  มาใช้ในการจดทะเบียนบัญชีทรูมันนี่เพื่อเอามาใช้ในการกระทำความผิดอีกด้วย เบื้องต้น แจ้งข้อหา ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และกระทำด้วยประการใด ๆ โดยมิชอบ ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายกับประชาชน



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ 

ข่าวทั้งหมด

X