แผนการดำเนินงานในปี 2562 ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) นาย กีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) คนที่ 17 เปิดเผยภายในงาน 17th MEA GOVERNOR : The Next Gen ร่วมเดินหน้าพลังงานวิถีชีวิตเมืองมหานคร กับผู้ว่าการ กฟน. ว่า ในปี 2562 กฟน. มีงบลงทุนทั้งสิ้น 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบสำหรับนำสายไฟฟ้าลงใต้ดิน 20,000 ล้านบาท และงบสำหรับค่าเสื่อมอุปกรณ์และการจัดซื้อจัดจ้างอีก 10,000 กว่าล้านบาท โดยในปี 2562 กฟน. มีแผนงานสำคัญๆหลายโครงการ เช่น การดำเนินการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ที่ขณะนี้ดำเนินการเสร็จไปแล้ว 40 กิโลเมตร และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอีก 170 กิโลเมตร ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดที่อยู่ในความรับผิดชอบของกฟน. คือ กรุงเทพฯ, นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยตลอดโครงการจะใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 70,000 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2564
ทั้งนี้ในส่วนของนนทบุรีจะครอบคลุมบริเวณศูนย์ราชการ ส่วนสมุทรปราการจะครอบคลุมพื้นที่สุขุมวิท-แบริ่ง และเทพารักษ์ , โครงการ MEA Smart Street Light ระบบไฟฟ้าสาธารณะเพื่อชุมชนเมือง ที่กฟน. สามารถเข้าไปแก้ไขได้ทันที หากไฟตามทางได้รับความเสียหาย โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนมาแจ้งตามเดิมแล้ว ซึ่งจะนำร่องในพื้นที่ริมคลองแสนแสบ 75 ชุมชนก่อน รวมไปถึงการเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(รถEV) ให้ครบทุกเขตในปีหน้าควบคู่ไปกับการพัฒนาแอพพลิเคชั่น MEA EV นอกจากนี้ยังมีโครงการ Smart Metro Grid ที่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลระบบไฟฟ้าอัจฉริยะด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ใช้จะสามารถคำนวณค่าไฟได้ รวมทั้งสามารถดูการเข้า-ออกของปริมาณไฟว่าเป็นปกติหรือไม่ โดยจะนำร่องใน 9 กิโลเมตร บริเวณย่านพญาไท-พระราม 4-รัชดา-เพชรบุรีก่อน ซึ่งขณะนี้ตัวโครงการกำลังอยู่ระหว่างหาผู้รับเหมาดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะได้ตัวผู้รับเหมาภายในปี 2562 ทั้งนี้ในปี 2562 กฟน. ยังตอบสนองนโยบายรัฐบาลด้วยโครงการไม่เก็บค่าไฟฟ้าประชาชนที่มียอดใช้ไฟไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือนไปจนถึงเดือนกันยายน 2562 อีกด้วย
ปัจจุบัน กฟน. ยังได้จัดทำแผนวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง ให้ตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆที่เกิดขึ้น และนำมาสู่วิสัยทัศน์ "Energy for city life, Energize smart Living" หรือ "พลังงานเพื่อวีถีชีวิตเมืองมหานคร" ที่เน้นพัฒนาระบบไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพอใจให้ประชาชนและเพิ่มการดำเนินธุรกิจใหม่ด้านพลังงานด้วย
ผู้ว่าการ กฟน. ยังบอกว่า ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา 60 ปีของกฟน. เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า กฟน. ทุ่มเท พยายาม และตระหนักดีว่าการใช้ไฟฟ้าของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ กฟน. จึงมีการพัฒนาไฟฟ้ามาโดยตลอด เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ไฟอย่างต่อเนื่อง จากนี้ กฟน. จะนำเทคโนโลยีดิจิทัล เข้ามาประยุกต์ใช้ในทุกส่วนขององค์กร และ กฟน. ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากนโยบายภาครัฐและเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้า เช่น การเปิดเสรีในการติดตั้งพลังงานสะอาดจากระบบโซลาร์ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในอนาคตระบบโซลาร์จะมีราคาถูกลงและจะมีบทบาทอย่างมากต่อการผลิตไฟฟ้าด้วย
ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผู้สื่อข่าว