กรณีนายอาณัติ อุดดี ช่างก่อสร้างที่ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวนิวซีแลนด์ บริเวณไซต์งานก่อสร้าง ตรงข้ามวัดราชบพิธ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 ธันวาคม อยู่ในเขตพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมความสูง 4 ชั้น สอบถามเพื่อนคนงานของนายอาณัติ ซึ่งพักอาศัยอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ บอกว่า นายอาณัติเพิ่งมาทำงานได้ประมาณ 3-4 วัน ก่อนหน้านี้ทำงานก่อสร้างที่ช่อง 11 และมาของานทำที่นี่ ตนให้ทำงานเพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน โดยในคืนที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.00 หลังเลิกงาน ก็นั่งกินเหล้าขาวจนถึงเที่ยงคืนจึงแยกย้ายกันไปนอนตามปกติ ส่วนนายอาณัติก็กางเปลนอนอยู่ด้านนอก จนกระทั่งเวลา 03.00 น. ตำรวจฉายไฟเข้ามา เรียกตนเองให้ตื่น และถามว่าได้ยินเสียงกรีดร้องหรือไม่ และเชิญไปให้การที่สถานีตำรวจ ซึ่งตนขอปฏิเสธว่า ไม่รู้เห็นสิ่งที่ นายอาณัติกระทำแต่อย่างใด โดยนายอาณัติ เคยมีครอบครัว แต่ต่อมาติดยาบ้า ทิ้งลูกทิ้งเมีย มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งด้าน พ.ต.อ.เกียรติ กาบบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแบ่งชุดสืบสวนออกเป็นหลายชุด และอยู่ในระหว่างการลงพื้นที่ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อหาตัวนายอาณัติ ขณะนี้ทราบเบาะแสแหล่งกบดานแล้ว อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ชาวต่างชาติตกเป็นผู้เสียหาย
ทั้งนี้ ผู้เสียหายให้การว่าเดินทางมาเที่ยวและพักผ่อนกับสามีและกลุ่มเพื่อนที่ประเทศไทย โดยในคืนเกิดเหตุทั้งหมดมาเที่ยวที่ถนนข้าวสาร และในเวลาประมาณ 02.00 น. เธอพลัดหลงกับกลุ่มจึงเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะกลับไปพักย่านสุขุมวิท แต่แท็กซี่จอดรถในที่เกิดเหตุซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเวลา 02.18 น. ของวันที่ 1 ธันวาคม ผู้เสียหายเดินมาถึงที่เกิดเหตุถนนเฟื่องนครโดยรถแท็กซี่สีชมพู ผู้เสียหายลงจากรถแท็กซี่ในสภาพที่มึนเมา และนั่งลงบริเวณโต๊ะด้านข้างทางเท้าจากนั้นแท็กซี่ก็ขับออกไป กับมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะที่นายอาณัติกำลังเดินพาผู้เสียหายเดินอ้อมกลับมาที่อาคารที่เป็นจุดเกิดเหตุ
ด้านคนขับแท็กซี่ที่รับผู้เสียหายในฐานะพยาน ระบุว่า ผู้เสียหายเรียกรถเพื่อไปส่ง แต่ระหว่างทางผู้เสียหายบอกให้จอดเนื่องจากมีอาการคลื่นไส้จากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ จึงจอดรถให้ลง จากนั้นก็ขับรถออกไปด้านพลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า ล่าสุดผู้ต้องหาพยายามติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่า กดดันอย่างหนัก อีกทั้งได้เข้าประสานพูดคุยกับญาติของผู้ต้องหาซึ่งได้ข้อมูลชัดเจนว่าหลบหนีอยู่ในพื้นที่ปริมณฑลคาดว่าจะสามารถจับกุมได้ภายใน 1-2 วันนี้
ส่วนข้อมูลผู้เสียหาย เดินทางเข้ามาในประเทศไทยพร้อมเพื่อนในวันที่ 18 พฤศจิกายน และมีกำหนดจะเดินทางกลับวันที่ 2 ธันวาคม แต่หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจจึงขอให้อยู่ในประเทศต่อเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับคดี โดยระบุว่า ในวันเกิดเหตุผู้เสียหายมีการดื่มกินอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมสติได้ จึงฝากเตือนถึงนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังเรื่องการดื่มกินให้มีสติ และ มีเพื่อนหรือบุคคลที่รู้จักอยู่ด้วย เพื่อความปลอดภัย
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ