ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะแนวโน้มจีดีพีและการส่งออก และการปรับตัวเลขประมาณการให้สอดคล้องกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ส่วนการประชุมคณะอนุกรรมการกองทุนเพื่อการส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน มีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน จะพิจารณาอนุมัติแนวทางเปิดให้ยื่นคำขอสนับสนุนเงินจากกองทุนอนุรักษ์พลังงานงบปี 2562 รอบ 2 วงเงิน 9 พัน-1 หมื่นล้านบาท
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน 2561 ขยายตัวร้อยละ 0.94 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 โดยปัจจัยสำคัญมาจากการที่ราคาอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 1.04 ขณะที่หมวดอุตสาหกรรมและหมวดปิโตรเลียมมีแนวโน้นลดลง และคาดว่าเงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2561 ยังขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงน่าจะขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 1 ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 0.8-1.6 หรือเฉลี่ยค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 1.2
เศรษฐกิจวันนี้ยังต้องติดตามกรณีที่ไทยจะเข้าเป็นสมาชิกข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ CPTPP ซึ่งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะทำงานรับทราบสถานะล่าสุดของความตกลงซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 30 ธันวาคม 2561 โดยยังมีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบจากเปิด CPTPP จากกลุ่มสินค้าอ่อนไหวที่ต้องปรับตัวเพราะการเปิดเสรีอาจไม่ได้ทำทั้งหมด
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการเข้าร่วม CPTPP ทำให้ไทยได้ประโยชน์จากการเปิดตลาดใหม่ที่ไทยไม่มีเอฟทีเอ และยังเก็บภาษีนำเข้าสูง เช่น แคนาดา เม็กซิโก
ส่วนอาชญากรรม
กรณีที่ทนายความของนายเปรมชัย กรรณสูต เปิดเผยแนวทางการต่อสู้คดีร่วมกันล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี โดยระบุว่านายเปรมชัยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุพลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานอัยการฟ้องแล้วไม่มีอะไรต้องกลัว อัยการเห็นตามฟ้องถือว่าประสบผลสำเร็จแล้วปฏิบัติหน้าที่ได้สมบูรณ์ เหลือแต่นำตัวพยาน 32 ปากขึ้นเบิกความต่อศาล
โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์ ตั้งแต่วันที่ 27-28-29-30 พ.ย. วันที่ 6-7 ธ.ค. วันที่ 11-12-13 ธ.ค.และวันที่ 18 ธ.ค.2561 โดยพยานโจทก์มีทั้งหมด จำนวน 32 ปาก จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดสืบพยานจำเลยที่มีอยู่ จำนวน 17 ปาก รวม 6 นัด คือวันที่ 19-20-21-25-26-27 ธ.ค.2561 รวม 10 นัด
ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ทีมโฆษกดีเอสไอ ชี้แจงผลการสอบสวนคดีการชุมนุมก่อความไม่สงบของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ในปี 2553 ว่ามีทั้งสิ้น 371 คดี แบ่งเป็น 4 กลุ่มคดี ประกอบด้วยกลุ่มที่ 1 คดีเกี่ยวกับการก่อการร้าย จำนวน 155 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว กลุ่มที่ 2 คดีเกี่ยวกับการ ขู่บังคับให้รัฐบาลกระทำการใดๆ จำนวน 25 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว กลุ่มที่ 3 คดีเกี่ยวกับการทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 169 คดี สอบสวนเสร็จ 154 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 15 คดี และกลุ่มที่ 4 คดีเกี่ยวกับการ กระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ จำนวน 21 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว
..