สรุปข่าว19.30 น.วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561

03 ธันวาคม 2561, 19:20น.


สรุปข่าว19.30 น.วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม 2561



+++บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกกลับมาดีอีกครั้ง หลังการเจรจาระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน มีข้อตกลงร่วมกันยืดเวลาการเก็บภาษีออกไป 90 วัน ทำให้นักลงทุนคลายกังวลลงมาก ส่งผลให้ปิดตลาดที่ 1,672.61 จุด เพิ่มขึ้น 30.81 จุด หรือ 1.88% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60,562.30 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ในวันนี้ และเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับผู้นำสหรัฐและจีนที่บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว หลังจากทั้งสองฝ่ายได้เจรจานอกรอบการประชุม G20 ในช่วงสุดสัปดาห์ ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 223.70 จุด หรือ 1.00% แตะที่ 22,574.76 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ทะยาน 675.29 จุด ปิดที่ 27,182.04 จุด



+++ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) เดือน พ.ย.61 เท่ากับ 102.40 สูงขึ้นร้อยละ 0.94 เทียบกับเดือน พ.ย.60 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเดือนที่ 17 แต่เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ส่วนเมื่อเทียบกับเดือนต.ค.61 ลดลงร้อยละ0.22  เงินเฟ้อที่สูงขึ้น เป็นผลจากดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อัตราเงินเฟ้อในปี 62 คาดการณ์ขยายตัวระดับร้อยละ 0.7-1.7  โดยมีค่ากลางที่ร้อยละ1.2 ภายใต้สมมุติฐาน คือ อัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) เพิ่มร้อยละ3.5-4.5 น้ำมันดิบตลาดดูไบ 70-80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยน 32.5-33.5 บาท/เหรียญฯ



+++ปตท. และ บางจากปิโตรเลียม ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันกลุ่มแก๊สโซฮอล์ขึ้น 30 สตางค์/ลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 15 สตางค์/ลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. 61 ส่งผลทำให้ ราคาใหม่ดังนี้เบนซิน 95 อยู่ที่ 35.36 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 27.95 บาท/ลิตร, แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 27.68 บาท/ลิตร, E20 อยู่ที่ 24.94 บาท/ลิตร, E85 อยู่ที่ 20.34 บาท/ลิตร, ดีเซล อยู่ที่ 27.59 บาท/ลิตร, ดีเซลพรีเมียม อยู่ที่ 31.19 บาท/ลิตร (ราคาขายข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพฯ).



+++สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สร้างความร่วมมือทางวิชาการ เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนรับรู้สิทธิและเสรีภาพของตัวเอง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาราจักรไทย 2560 เพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ และอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ในการคุ้มครองสิทธิของประชาชน  นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง หลักนิติธรรมกับรัฐธรรมนูญ ตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยใช้ระบบรวมอำนาจ โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญทำหน้าที่สำคัญ ในการทบทวนใช้อำนาจวินิจฉัยว่า กฎหมาย นโยบายของฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่การทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ บางครั้งต้องระมัดระวัง ไม่ให้ล้ำในอำนาจของฝ่ายบริหาร ไม่ชี้นำ จนกลายเป็นตุลาการภิวัฒน์



+++นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่า การเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี  ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มาเพียงคนเดียว และไม่มีผู้สมัคร ทั้งส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อคนใดเป็นทหาร ดังนั้น ไม่ควรนำประเด็นนี้มาโจมตี เพื่อสร้างความขัดแย้ง



+++ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐในภาคอีสานตกต่ำ และไม่มีทางได้ที่นั่ง ส.ส. 50 ที่นั่ง ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวไว้ ว่า หากดูจากนโยบายและผลงานของพรรคขณะนี้  ถือว่าเป็นไปในทิศทางบวก เนื่องจากพรรคการเมืองอื่นไม่มีนโยบายนำเสนอ มีแค่การพูดเรื่องความขัดแย้งและสืบทอดอำนาจ 



+++นายสิทธิโชค สันหกรณ์ อายุ 46 ปี พร้อมด้วยญาติๆได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อขอรับศพ นายสุเทพ สาระกูล อายุ 66  ปี ผู้เป็นลุง ที่เสียชีวิตขณะนั่งกินสุกี้ร้านดังที่ห้างสรรพสินค้าในเขต อ.ธัญบุรี นายสิทธิโชค หลานชาย เปิดเผยว่า ลุงเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแล้ว ได้ไปทำบอลลูนหัวใจที่ รพ.ชลบุรี แต่ไปตรวจครั้งล่าสุดแพทย์ก็บอกว่าบอลลูนได้เสื่อมแล้ว อยู่ระหว่างรอผ่าตัดหัวใจ คาดว่าเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ประกอบกับผลชันสูตรที่บอกว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากหัวใจกำเริบโดยฉับพลัน ไม่ได้เกิดจากการทานเป็ดย่างเข้าไปจนติดคอตามข่าวลือ



+++หลังพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ได้ควบคุมตัว นายสกานต์ มั่นคงอายุ 39 ปี ชาวกทม.อาชีพวิน จยย.รับจ้าง ผู้ต้องหาคดีทำร้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจ มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 - 14 ธ.ค.นี้ เนื่องจากต้องรอสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รอผลวินิจฉัยบาดแผลผู้บาดเจ็บ และรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง จากนั้น ญาติของนายสกานต์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขัง พร้อมเสนอศาลขอติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กำไลข้อเท้า EM ด้วย อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาแล้วหลักทรัพย์ที่ญาติของผู้ต้องหายื่นมานั้นไม่เพียงพอ ดังนั้น จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว ยกคำร้องโดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัว นายสกานต์ผู้ต้องหา ไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างการฝากขังนี้ต่อไป

ข่าวทั้งหมด

X