แกนนำพรรคการเมือง นำเสนอนโยบายการศึกษา กระจายอำนาจ-เพิ่มงบ
1071
https://www.js100.com/en/site/news/view/65344
COPY
02 ธันวาคม 2561, 17:48น.
การเสวนา “ชวนพรรคร่วมคิด พลิกห้องเรียน เปลี่ยนไทยทันโลก” ที่มีนักการเมืองจากหลากหลายพรรคเข้าร่วมงานเสวนา ซึ่งจัดขึ้นโดยทีดีอาร์ไอร่วมกับภาคีเพื่อการศึกษาไทย
นางสาว กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา บอกว่า อยากจะให้ทุกพรรคการเมืองทำสัญญาประชาคมร่วมกันว่าต่อให้สถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงและไม่ได้รับผลกระทบจากการเมือง เพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงนี้ได้มีโอกาสทำงานแบบระยะยาวเพื่อการพัฒนาการศึกษาและพัฒนาบุคลากร
ด้านคุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ควรนำเรื่องการพัฒนาคนบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ และควรสนับสนุนให้มีการเรียนรู้นอกห้องเรียนควบคู่ไปพร้อมกัน พร้อมมองว่าการกระจายอำนาจการศึกษา คือ การยึดเด็กผู้เรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียน แต่เมื่อระบบยังเป็นเช่นเดิมเหมือน 50 ปีที่แล้วที่คอยขีดเส้นผู้เรียน ก็มองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการกระจายอำนาจไปสู่ผู้เรียนได้ ทั้งๆที่จุดมุ่งหมายการศึกษาของผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ดังนั้นควรต้องเลิกตัวชี้วัดการศึกษาหลายๆอย่าง ต้องเปลี่ยนระบบการศึกษาใหม่ รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการต้องปรับเปลี่ยนบทบาทใหม่ นอกจากนี้จะต้องกระจายอำนาจไปสู่ผู้เรียนและผู้ปกครองโดยแท้จริง ซึ่งรวมไปถึงการที่ตัวงบประมาณการศึกษาจะต้องลงไปถึงผู้เรียนด้วยเช่นกัน คุณหญิง สุดารัตน์ ยังมองว่า โรงเรียนควรเรียกผู้ปกครองมาคุยด้วยบ่อยๆ ไม่ใช่ปัจจุบันที่จะเรียกผู้ปกครองมาคุยต่อเมื่อผู้เรียนสร้างปัญหาในโรงเรียน
ส่วนนาย กรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กไทยเรียนไม่จบตามเกณฑ์การศึกษาขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดถึงกว่าร้อยละ 15 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการก็ไม่รู้ว่าร้อยละ 15 ที่ว่าคือใคร จึงแสดงให้เห็นว่ากระทรวงขาดการบูรณาการการทำงานที่มากพอ นอกจากนี้ยังมองว่าการกระจายอำนาจการศึกษาไม่ได้หมายถึงการกระจายอำนาจไปถึงท้องถิ่นหรือแค่โรงเรียนอย่างเดียว แต่ต้องเปิดให้ผู้ปกครองและชุมชนโดยรอบมีสิทธิ์มีเสียงด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการต้องมีขนาดเล็กลงแล้วไปกระจายอำนาจให้โรงเรียนแทน นาย กรณ์ ยังบอกว่ารัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณประจำปีให้กระทรวงศึกษาฯเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยร้อยละ 20 ต่อปี เพราะเมื่อเทียบงบรายหัวที่ผู้เรียนได้รับจากรัฐในปัจจุบันถือว่าน้อยมาก
ขณะที่นาย สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่า ขณะนี้ต้องการครูที่เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะครูที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องพัฒนาการของเด็ก นอกจากนี้มองว่าตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอาจเปลี่ยนได้ แต่สิ่งที่ยังต้องคงอยู่คือตัวนโยบาย เพื่อให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้
ข่าวทั้งหมด