กระทรวงความมั่นคงภายในของฝรั่งเศสรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงกฎหมายคาร์บอนพากันปีนประตูชัยชนะหรืออาร์กเดอทรียงฟ์ในย่านใจกลางกรุงปารีส ขณะที่ยังมีการปะทะระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลเกิดขึ้นโดยต่อเนื่อง หลังการประท้วงของกลุ่มคนสวมเสื้อกั๊กสีเหลืองราว 75,000 คนยืดเยื้อมาเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว
การประท้วงมีจุดเริ่มต้นจากการคัดค้านกฎหมายคาร์บอนที่มีผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงขึ้น จึงเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แก้ไขปัญหา แต่ขณะนี้ประเด็นของการชุมนุมเริ่มขยายมาเป็นความไม่พอใจเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้น และเมื่อเหตุการณ์เพิ่มความรุนแรงตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการประท้วงในย่านฌอง เซลิเซ่ในกรุงปารีส ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งสวมหมวกไหมพรมตอบโต้ด้วยการปาของแข็งเช่น ก้อนหิน ใส่ตำรวจและจุดไฟเผาอาคารบางแห่ง มีผู้บาดเจ็บราว 110 คน ในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของฝรั่งเศส 17 คน นอกจากนี้กลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งพยายามจะช่วยกันงัดประตูเหล็กด้านหน้าของสวนสาธารณะตุยเลอรี ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ เพื่อเปิดประตูของสวนสาธารณะ ส่งผลให้ประตูล้มทับทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน นอกจากนี้ยังมีรายงาน ผู้ประท้วงขโมยปืนไรเฟิลจากรถตำรวจคันหนึ่ง แต่ยังไม่แน่ชัดว่าปืนบรรจุกระสุนปืนไว้หรือไม่
...