องคมนตรี ติดตามโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำฯ จ.สกลนคร

การติดตามและขับเคลื่อนโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ  จังหวัดสกลนคร นายจรัลธาดา กรรณสูต องคมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมคณะอนุกรรมการฯ  เดินทางไปติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานโครงการ

สำหรับโครงการประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชดำริ เพื่อช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่เขตตำบลตองโขบ และตำบลใกล้เคียง ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง พร้อมกับพระราชทานพระราชดำริ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2535  สรุปความว่า ควรพิจารณาวางโครงการขุดลอกลำห้วยต่าง ๆ ที่ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขิน เช่น ห้วยร่องช้างเผือก ห้วยชัน และควรขุดคลองต่อเชื่อมกับหนองน้ำธรรมชาติต่าง ๆ พร้อมก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ ให้สามารถระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่เพาะปลูกไปลงลำน้ำก่ำได้สะดวกในช่วงฤดูฝน และรับน้ำจากห้วยน้ำพุง ผ่านลำห้วยร่องช้างเผือกและลำห้วยอื่น ๆ เข้าเก็บในหนองน้ำต่าง ๆ เพื่อให้ราษฎรได้ใช้ทำการเกษตรและอุปโภค บริโภคในฤดูแล้ง

กรมชลประทาน ได้กำหนดแผนงานก่อสร้างประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-ลำน้ำก่ำ พร้อมคลองผันน้ำและอาคารประกอบ จำนวน 4 สาย ความยาว 51.26 กิโลเมตร บริเวณบ้านตองโขบ เพื่อลดปริมาณน้ำหลากที่ไหลเข้าสู่ที่ราบตอนล่างบริเวณหนองหาน เพิ่มศักยภาพการระบายน้ำของลำน้ำสายต่างๆ ช่วงที่ไหลเข้าเมือง ลดอิทธิพลน้ำหนุนช่วงท้ายหนองหานให้สามารถระบายน้ำส่วนเกินลงลำห้วยน้ำก่ำได้สะดวกขึ้น ซึ่งปัจจุบันโครงการฯ ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2560 โดยจะสามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองสกลนคร และอำเภอโคกศรีสุพรรณ โดยการตัดยอดน้ำ จากลำน้ำพุง ก่อนไหลลงสู่หนองหาร ได้ร้อยละ 40 ช่วยเหลือราษฎรได้ 10,857 ครัวเรือน 33 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่ 4 ตำบล พื้นที่รับประโยชน์ 78,358 ไร่

นายจรัลธาดา เปิดเผยว่า โครงการนี้ เป็นพระราชดำริจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ทรงสืบสานเพื่อประโยชน์ของประชาชน เนื่องจากลำน้ำก่ำ เป็นลำน้ำสายเดียวที่สามารถระบายน้ำ ออกจากหนองหานลงสู่แม่น้ำโขงได้ แต่เนื่องจากลำน้ำก่ำ มีความคดเคี้ยวและแคบ จึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความล่าช้า โดยเฉพาะหน้าน้ำที่ส่งผลกระทบกับประชาชนโดยเฉพาะในตัวเมืองสกลนคร และพื้นที่โดยรอบ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงทรงเร่งรัดให้ดำเนินโครงการ ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จ จะสามารถลดการเกิดอุทกภัย ที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน ภาคการเกษตร และเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ย้ำว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใย ประชาชน กรณีที่ได้รับความเดือดร้อน จากผลกระทบของพายุเซินกา และส่งผลให้อ่างเก็บน้ำห้วยขมิ้นอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้รับความเสียหายเมื่อปีที่แล้ว  ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทราบและเป็นห่วง โดยให้เร่งซ่อมแซม จนกลับมาสมบูรณ์ รวมถึงให้สำรวจอ่างเก็บน้ำใน จ.สกลนคร ทั้งหมด ว่าที่ใดสร้างมานานยังไม่แข็งแรง เพื่อดำเนินการซ่อมแซม ให้มั่นคงแข็งแรง รองรับอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคตอีกด้วย

ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี