นายกรัฐมนตรีเดินทางถึงเยอรมนี ร่วมเจรจาด้านความปลอดภัยและเศรษฐกิจ

27 พฤศจิกายน 2561, 16:01น.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย นางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะได้เดินทางถึงท่าอากาศยานเบอร์ลิน เทเกล ก่อนเดินทางมายังโรงแรมฮิลตัน เบอร์ลิน ซึ่งเป็นโรงแรมที่พัก โดยมีคณะข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ผู้ช่วยทูตทหาร เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และคนไทยในเบอร์ลิน ให้การต้อนรับ



ตัวแทนคนไทยที่มาต้อนรับกล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้น ดีใจ และภูมิใจ ที่นายกฯเดินทางมาที่เบอร์ลิน ได้ติดตามข่าวสารของนายกฯ อย่างใกล้ชิดในช่องทางต่างๆ และเชียร์ลุงตู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ตัวแทนคนไทยได้นำดอกไม้และของที่ระลึกมามอบให้แก่นายกรัฐมนตรีด้วย



นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณทุกคน และระบุว่า ดีใจ และขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าดีทั้งหมด ขอให้ช่วยกัน พวกเราทุกคนขอให้ดูแลกันให้ดี อยู่บ้านใครก็ตามถึงแม้จะสองสัญชาติ ก็ขอให้มีประเทศไทยเป็นหลัก และก็ขอให้รู้กฎหมายของประเทศเขาด้วย และให้ติดตามข่าวสารดีๆ ขณะที่คนไทยขอให้นายกฯมีความสุขและห่วงสุขภาพนายกฯ นายกฯ กล่าวว่า สุขภาพร่างกายโอเค แต่ใจมันก็เครียด



พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ เพจไทยคู่ฟ้าว่า การเดินทางมาถึงประเทศเยอรมนีในครั้งนี้แม้จะมีอากาศค่อนข้างหนาว ติดลบ 2-3 องศา ก็ต้องอาศัยเสื้อโค้ท แต่ที่สำคัญตนมีกำลังใจจากคนไทยที่อยู่ในเยอรมันมาต้อนรับอย่างอบอุ่น เราทุกคนต่างก็ดีใจที่มาพบกัน ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุข



สำหรับตนเองก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับเยอรมนี โดยการเดินทางมาครั้งนี้ เป็นไปตามคำเชิญของนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี สิ่งสำคัญวันนี้คือประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนเราจะได้มีโอกาสสานความสัมพันธ์กับประเทศเยอรมนีและ สหภาพยุโรปหรืออียู จะส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้มีการพัฒนาและมีความสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น





ส่วนความคาดหวังในการร่วมมือกับเยอรมนีในการพบกันในครั้งนี้ว่า จะได้มีการพูดคุยกันในหลายมิติ ทั้งเรื่องความมั่นคงในภูมิภาค เรื่องความปลอดภัยต่างๆ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งจะได้มีการพูดคุยถึงเรื่องความมั่นคงหรือปลอดภัยปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคต่างๆ ซึ่งจะได้หารือกันรวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นระหว่างกันในลักษณะที่สร้างสรรค์ รวมทั้งเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์การศึกษาการร่วมมือกันด้านพลังงาน การวิจัยพัฒนาเพื่อทำให้เกิดความแข็งแกร่งร่วมกัน



นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เยอรมัน เป็นต้นแบบสำคัญในเรื่องของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในด้านสินค้าที่มีราคาแพง ปัจจุบันเรามีความร่วมมือระหว่างกันหลายอย่าง มีการลงนามไปแล้วถึง 19 เรื่องโดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจการค้า การลงทุน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มีความร่วมมือกันทางด้านอาชีวะ การศึกษา ซึ่งวันนี้คนไทยจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นก็คงจะไปไหนไม่ได้ ติดอยู่ที่เดิม ที่ผ่านมาเราติดอยู่กับความยากจนและความมีรายได้น้อย หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาในเรื่องการประกอบอาชีพมันก็คงไปไม่ได้ ดังนั้น เราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงบ้างแม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็ต้องมีการเริ่มต้นไปตามยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนด ดังนั้นก็อยากให้ทุกคนได้ฟังสิ่งที่รัฐบาลนำเสนอไว้ถ้าไม่ฟังก็คงลำบาก



 



CR: FB ไทยคู่ฟ้า

ข่าวทั้งหมด

X