แผนการดำเนินงานปีที่ 47 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) นาย สุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กล่าวว่า กทพ. มีโครงการสำคัญที่จะดำเนินการอยู่ 3 โครงการหลัก โดยบางส่วนจะใช้เงินจากกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ หรือ กองทุน TFFIF ที่มีประชาชนกว่า 5 ล้านคนเข้าร่วมระดมทุนเป็นยอดรวมแล้วกว่าครึ่งหนึ่งของเงินกองทุนทั้งหมดมาเป็นงบก่อสร้าง โดย 3 โครงการหลัก ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯด้านตะวันตก ที่จะเป็นสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 โดยมีจุดมุ่งหมายระบายการจราจรในเขตกรุงเทพฯชั้นในไปสู่เขตปริมณฑล และทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น โดยตัวโครงการขณะนี้จ้างที่ปรึกษาได้แล้ว และคาดว่าจะได้ผู้รับเหมาต้นปีหน้า จากนั้นพร้อมก่อสร้างทันที
โครงการเชื่อมต่อทางด่วนบูรพาวิถีจากท่าเรือคลองเตย-ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อบรรเทาการจราจรและช่วยให้การขนส่งสินค้าสะดวกมากขึ้น ขณะนี้กำลังรอผลรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) เมื่อเสร็จแล้วก็พร้อมสร้างทันที เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วทุกด้าน คาดว่าโครงการจะเสร็จสมบูรณ์ปี 2565
ขณะที่โครงการสุดท้ายคือ โครงการเชื่อมต่อวงแหวนตะวันออก-ตะวันตก ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างรอแบบจากผู้เกี่ยวข้อง และเร่งศึกษาส่วนที่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยระหว่างนี้ กทพ. จะพัฒนาการออกแบบการระบายการจราจรช่วงรามอินทราควบคู่ไปด้วย ประธานบอร์ดกทพ. ยังระบุว่า กทพ. มีโครงการศึกษาแผนแม่บททางพิเศษใน จ.ภูเก็ต, เชียงใหม่ และขอนแก่น ด้วย โดยที่จ.ภูเก็ต อยู่ระหว่างการหาผู้ร่วมประมูลและเตรียมความพร้อม ทั้งนี้มีแผนยกระดับการบริหารจัดการกทพ. ให้ทันสมัยยิ่งขึ้นในอนาคต
ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผู้สื่อข่าว