ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561

ความตึงเครียดบริเวณพรมแดนระหว่างชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก โดยที่ด่านชายแดนซานอีซิโดร ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองซานอีซิโดรของสหรัฐฯกับเมืองตีฮวนนาของเม็กซิโก ทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อขบวนคาราวานผู้อพยพจากอเมริกากลางจำนวนหลายพันคน ตั้งค่ายพักในสนามกีฬาของเมืองตีฮวนนา เพื่อรอข้ามไปยังสหรัฐฯ และเกิดวุ่นวายขึ้นจากทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อตำรวจเม็กซิโกพยายามสลายการชุมนุมขณะที่เจ้าหน้าที่ทางฝั่งสหรัฐฯก็ยิงแก๊สน้ำตาสกัด

ต่อมาสำนักศุลกากรและป้องกันชายแดนสหรัฐฯ ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้อพยพที่ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่

ข้อมูลจากองค์กรกำกับการบริหารงานภาครัฐแห่งสหรัฐ (GSA) ระบุว่า ในแต่ละวัน มีรถยนต์ประมาณ 70,000 คัน และประชาชนราว 20,000 คน เดินทางผ่านด่านซานอีซิโดร แต่จากสถานการณ์ล่าสุดทำให้ต้องมีการปิดด่านทั้งทางเท้าและทางรถยนต์ลงเป็นการชั่วคราว และเปิดให้เดินทางผ่านได้อีกครั้งแล้ว นายดันแคน วูด ผู้อำนวยการสถาบันเม็กซิโกแห่งศูนย์วิจัยวิลสันในกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่าการปิดด่านพรมแดนถือเป็นมาตรการตอบสนองที่เกินกว่าเหตุ และอาจสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จัดการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ ตามคำร้องของรัสเซียและยูเครนกรณีที่รัสเซียยิงเรือ 3 ลำของยูเครนใกล้กับช่องแคบเคิร์ชในทะเลดำ ส่งผลให้ลูกเรือได้รับบาดเจ็บหลายราย หลังจากที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 ก็ได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำของคาบสมุทรแต่ยูเครนปฏิเสธการอ้างสิทธิ์ของรัสเซีย

โดยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทะเลดำใกล้แคว้นไครเมียรัสเซียยิงเรือยูเครน และยึดเรือไว้ 3 ลำ ทำให้ชาวยูเครนประมาณ 150 คน ชุมนุมและเผารถหน้าสถานทูตรัสเซียประจำยูเครน ในกรุงเคียฟ

ด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโตจะมีการประชุมฉุกเฉินในวันนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ ตามคำร้องของฝ่ายยูเครน

นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรปทวีตข้อความประณามการที่รัสเซียยิงเรือของยูเครนในทะเลอะซอฟ และเรียกร้องให้คืนลูกเรือ และเรือของยูเครน ตลอดจนยุติการกระทำที่จะก่อให้เกิดเหตุรุนแรงต่อไป พร้อมระบุว่า ยุโรปยังคงให้การสนับสนุนยูเครน

ขณะรัฐสภายูเครนเปิดประชุมฉุกเฉินเพื่อพิจารณารับรองใช้กฎอัยการศึกคุมสถานการณ์ เป็นเวลา 30 วัน พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียปล่อยลูกเรือยูเครน และประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก เตือนว่ายังมีภัยคุกคามร้ายแรงของการรุกรานทางภาคพื้น และจะใช้กฎอัยการศึกเพื่อเสริมการป้องกันตนเอง

ที่ออสเตรเลีย เหตุคลื่นความร้อนทำให้เกิดเหตุไฟป่าประมาณ 40 แห่งภายในรัฐควีนส์แลนด์ หน่วยฉุกเฉินและดับเพลิงรัฐควีนส์แลนด์ กล่าวว่า จุดที่มีไฟไหม้รุนแรงที่สุดอยู่ที่เมืองบริสเบน ซึ่งเผาทำลายบ้านเรือน 2 หลัง และเสียหายบางส่วน 4 หลัง ทำให้ต้องมีคำสั่งอพยพ

อย่างไรก็ตาม ไฟป่าออสเตรเลียในช่วงเวลานี้ถือเป็นเหตุผิดปกติ เพราะเป็นฤดูฝน แต่เวลานี้มีลมแรง อากาศแห้งกว่าค่าเฉลี่ยปกติ และมีคลื่นความร้อน

บริษัทเจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ระงับการผลิตรถยนต์ในโรงงานหลายแห่งในสหรัฐฯและแคนาดาในปีหน้า รวมทั้งจะปลดพนักงานร้อยละ 15 หรือมากกว่า 14,000 คน ตามแผนปรับโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย 6 พันล้านดอลลาร์ต่อปีจนถึงปลายปี 2563

ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ เมื่อโอเปกมีกำหนดประชุมกันที่ออสเตรีย ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ และซาอุดีอาระเบียจะผลักดันให้สมาชิกกลุุ่มและผู้ผลิตนอกกลุ่มลดกำลังผลิตสูงสุด 1 ล้าน 4 แสนบาร์เรล  

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 51.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

โกลแมน แซคส์ คาดว่าน้ำมันดิบเบรนต์ในปีหน้า จะอยู่ที่ 70 ดอลลาร์

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มค้าปลีกที่ดีขึ้นเนื่องจากยอดขายที่แข็งแกร่งในช่วงแบล็คฟรายเดย์ อะโดบี อนาลิติค ซึ่งติดตามและวิเคราะห์ยอดขายทางออนไลน์ ระบุว่า ยอดขายทางออนไลน์ในช่วงแบล็คฟรายเดย์ มีมูลค่า 6,220 ล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.6 จากปีที่แล้ว

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 354.29 จุด หรือร้อยละ 1.46 ปิดที่ 24,640.24 จุด

เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 40.89 จุด หรือร้อยละ 1.55 ปิดที่ 2,673.45 จุด

แนสแดค เพิ่มขึ้น 142.87 จุด หรือร้อยละ 2.06 ปิดที่ 7,081.85 จุด

 ....