ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประณามผู้ชุมนุมว่าน่าละอาย

26 พฤศจิกายน 2561, 08:41น.


ในวันนี้ นายบรูโน เลอ แมร์ล รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส จะประชุมกับผู้ประกอบธุรกิจเพื่อประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการประท้วงกฎหมายภาษีคาร์บอนที่ทำให้น้ำมันจากฟอซซิลมีราคาแพงขึ้น ซึ่งผู้ค้าปลีกชาวฝรั่งเศสเตือนว่า หากการประท้วงยืดเยื้อต่อไปจะเป็นผลเสียต่อเทศกาลจับจ่ายซื้อสินค้าช่วงปลายปี และคุกคามการจ้างงานในฝรั่งเศส



จากนั้นในวันพรุ่งนี้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสจะกล่าวชี้แจงต่อรัฐสภา ซึ่งอาจมีการออกมาตรการบรรเทาผลกระทบจากมาตรการภาษี แต่ก่อนหน้านี้เขาระบุว่าการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มขวาจัด ส่วนรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ตั้งข้อสังเกตว่า เป้าหมายการชุมนุมถูกเบี่ยงเบนออกไปไกลจากการคัดค้านกฎหมายคาร์บอน



ส่วนสถานการณ์ในกรุงปารีส ยังคงมีควันไฟและแก๊สน้ำตาหลงเหลืออยู่ในบางจุด หลังจากที่เจ้าหน้าที่สลายกลุ่มผู้ประท้วงที่มีการนัดชุมนุมใหญ่เมื่อวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน และเป็นการชุมนุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่เกิดขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่กรุงปารีสเนื่องจากมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจที่พยายามขัดขวางไม่ให้ผู้ชุมนุมที่มีราว 5,000 คนเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดีผ่านถนนฌ็องเซลีเซ เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้ประท้วงถูกจับกุม 69 คนจาก 130 คนที่ถูกจับกุมทั่วประเทศ และมีผู้บาดเจ็บ 24 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 5 นาย



ประธานาธิบดีมาครง ทวีตข้อความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์ และประณามผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรงโจมตีเจ้าหน้าที่ และข่มขู่ผู้อื่นว่าน่าละอาย ทั้งระบุด้วยว่าไม่มีที่ว่างสำหรับความรุนแรงในฝรั่งเศส  อย่างไรก็ตามกระทรวงกิจการภายในฝรั่งเศส รายงานว่า การชุมนุมในสุดสัปดาห์ มีผู้ชุมนุมทั่วประเทศประมาณ 150,000 คนลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่มีจำนวนมากกว่า 280,000 คน โดยราคาน้ำมันดีเซลซึ่งใช้กับรถยนต์ส่วนใหญ่ในฝรั่งเศสปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 23 ตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา จนมีราคาเฉลี่ย 1.51 ยูโรต่อลิตร (ประมาณ 56.65 บาท) ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 โดยรัฐบาลนายมาครงปรับขึ้นภาษีไฮโดรคาร์บอนในปีนี้ที่อัตรา 7.6 เซนต์ต่อลิตรสำหรับดีเซล และ 3.9 เซนต์ต่อลิตรสำหรับเบนซิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนให้ใช้เชื้อเพลิงสะอาด



...

ข่าวทั้งหมด

X