สถานการณ์ผู้อพยพจากอเมริกากลาง ที่เดินทางผ่านเม็กซิโกและพยายามเข้าสู่สหรัฐฯ แม้ว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะออกคำเตือนหลายครั้งว่า ไม่รับผู้อพยพเหล่านี้และมีความเห็นว่าเป็นผู้บุกรุก และกล่าวด้วยว่า ศาลจะเป็นผู้อนุมัติการขอของผู้อพยพแต่ละคน ซึ่งจะทำให้กระบวนการพิจารณาคำขอต้องใช้เวลานาน และทำให้ผู้อพยพเหล่านี้ต้องถูกกักไว้ที่ฝั่งเม็กซิโกระหว่างที่การยื่นเรื่องขอลี้ภัย
อย่างไรก็ตาม นายมาร์เซโล เอบราร์ด ว่าที่รัฐมนตรีการต่างประเทศของเม็กซิโก และนางโอลกา ซานเชซ กอร์เดโร รัฐมนตรีกิจการภายใน ซึ่งมีกำหนดเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ กล่าวว่ารัฐบาลเม็กซิโกไม่มีข้อตกลงกับรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องที่ให้กักผู้อพยพไว้ในพรมแดนของเม็กซิโก
ด้านนายฮวน มานูเอล กัสเตลัม นายกเทศมนตรีเมืองตีฮัวนา ประกาศวิกฤติด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ ซึ่งมีพลเมืองอาศัยอยู่ประมาณ 1 ล้าน 6 แสนคน เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นไม่สามารถรองรับคลื่นผู้อพยพเหล่านี้ได้อีกต่อไป
นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป แถลงว่า ที่ประชุมผู้นำชาติสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู 27 ประเทศ ได้ให้ความเห็นชอบข้อตกลงถอนสมาชิกภาพและปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วยอนาคตความสัมพันธ์ระหว่างอียูกับสหราชอาณาจักรแล้ว
นายฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า เบร็กซิตเป็นโศกนาฏกรรม แต่ข้อตกลงนี้เป็นข้อตกลงดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้สำหรับทั้ง 2 ฝ่าย
ขั้นตอนต่อไป นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักร จะนำข้อตกลงนี้เข้าสู่ที่ประชุมของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอความเห็นชอบและถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มอียูภายในวันที่ 29 มีนาคม 2562 แต่บรรดาส.ส.ของพรรคการเมืองทุกพรรค รวมถึงพรรคของนายกรัฐมนตรีเอง ประกาศว่า พวกเขาจะคัดค้านข้อตกลงฉบับนี้และต้องการให้เจรจาต่อรองกันใหม่ แม้ว่าข้อตกลงที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบของสมาชิก 27 ประเทศ จะใช้เวลาในการเจรจานานถึง 18 เดือนก็ตาม
รัฐบาลสหรัฐพยายามชักชวนให้บริษัทอินเทอร์เน็ตและไวไฟในประเทศต่างๆ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมจากบริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทที่ถูกหน่วยงานข่าวกรองชาติตะวันตกตรวจสอบ และทำให้หุ้นเทคโนโลยีของบริษัทจีนปรับตัวลดลง โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้บริหารด้านโทรคมนาคมของหลายประเทศเพื่อแนะนำว่าอุปกรณ์ของหัวเหว่ยมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า กระทรวงจะยังคงเฝ้าระวังต่อการคุกคามใด ๆ ต่อความมั่นคงของสหรัฐ
โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน หัวเหว่ยทำสัญญาทางการค้าเพื่อจัดทำเครือข่าย 5 จี จำนวน 22 ฉบับ และจะเปิดห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยของข้อมูลในเยอรมนี
ส่วนสถานการณ์ในซีเรีย กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า มีปฏิบัติการโจมตีกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวซีเรียในเมืองอะเลปโปที่ใช้อาวุธเคมีที่มีส่วนผสมของคลอรีนโจมตีประชาชนในเขตที่ฝ่ายรัฐบาลซีเรียควบคุมอยู่เมื่อวันเสาร์ และผลจากปฏิบัติการของรัสเซียสามารถทำลายผู้ก่อการร้ายได้ทั้งหมด
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยด้วยว่า ในการที่กลุ่มก่อการร้ายโจมตีประชาชนเมื่อคืนวันเสาร์นั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารของรัสเซียได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์ ทั้งระบุด้วยว่า กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยที่เรียกกันว่ากลุ่มหมวกขาว เป็นผู้ที่ก่อเหตุโจมตีด้วยอาวุธเคมี แล้วป้ายความผิดให้แก่กองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรีย
ทำเนียบรัฐบาลมาเลเซียออกแถลงการณ์ว่าจะไม่ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of RACIAL Discrimination-CERD) เพราะมีผลต่อนโยบาย "ภูมิปุตรา" หรือ "ชาวมาเลย์ ต้องมาก่อน" ของนายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย
...