นายกรัฐมนตรีพร้อมใช้อำนาจที่มีอยู่เพื่อรักษาความสงบ

ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (7 ตุลาคม) เป็นการประชุมร่วมกันครั้งแรกร่วมกับ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยย้ายสถานที่ประชุมจากทำเนียบรัฐบาล มาที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต

วาระสำคัญของการประชุมจะเป็นเรื่องที่แต่ละกระทรวงฯ ที่จะเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบ เช่น ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ จะเสนอมาตราการช่วยเหลือชาวนา

ส่วนกระทรวงสาธารณสุข ก็จะเสนอขอ งบประมาณในการสร้างโรงงานผลิตยา ที่รังสิต และโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ -ไข้หวัดนก ที่อำเภอทับกวาง จังหวัดสระบุรี  

รวมถึงจะมีการหารือการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ได้ลงพื้นที่ไปมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่

ด้านพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็เตรียมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตร

นอกจากนี้ มีรายงานว่า นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอขอยกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว

และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เสนอที่ประชุม ขอตรึงราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที หรือรถไฟฟ้าใต้ดิน ที่จะเพิ่มราคา 1-2 บาทต่อสถานี หลังจากที่กระทรวงได้เจรจากับบริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด ขยายเวลา ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ในระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และหัวหน้า คสช. กล่าวในที่ประชุมว่า คสช. และครม. มีการทำงานร่วมกันมาโดยตลอด เพื่อวางรากฐานประเทศ และนายกรัฐมนตรี ก็พร้อมที่จะใช้อำนาจเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและความสมานฉันท์ในประเทศ อะไรที่ติดขัดในการแก้ไขปัญหาของประเทศจะเร่งแก้ไขเพื่อให้ประเทศเดินหน้าปฏิรูปได้สำเร็จ รวมถึงสร้างความสามัคคีปรองดองให้คนในชาติ ส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. และสภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือ สปช. ก็จะดำเนินการตามแผนการทำงานที่วางไว้

..ผสข.บุศรินทร์ วรสมิทธิ์ , วิรวินท์ ศรีโหมด