สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ รายงานถึงสถานการณ์แรงงานไทยในอิสราเอล โดยพบว่าแรงงานไทยจำนวนมากไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ดำเนินชีวิตโดยมีสุขอนามัยต่ำกว่ามาตรฐาน พักอาศัยภายในบ้านพักที่มีสภาพผุผัง ห้องน้ำไม่สะอาด ทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย บางคนต้องทำงานหนักเกินกำหนด แต่ได้ค่าจ้างน้อยกว่าที่ตกลงไว้ แรงงานไทยเหล่านี้เดินทางไปรับจ้างทำงานในภาคเกษตรของอิสราเอลตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอิสราเอลที่ให้ไว้ต่อกันเมื่อ พ.ศ. 2555 ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานตามข้อตกลงดังกล่าวกว่า 25,000 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตถึง 172 ศพและบางศพ แพทย์ไม่แจ้งเหตุผลของการเสียชีวิต สิ่งที่บรรดาแรงงานไทยต่างวิตกคือ อันตรายจากการใช้สารเคมีในการเพาะปลูกพืช ซึ่งพวกเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องสัมผัส เนื่องจาก ไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมเพียงพอ พวกเขาเชื่อว่าสารเคมีที่แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีอาการเจ็บป่วย และนายจ้าง ปฏิเสธที่จะพาไปพบแพทย์ อิสราเอลมีกฎหมายที่ให้ความคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานไทย แต่ขึ้นอยู่กับนายจ้างว่าจะจัดหาอาหาร ที่พัก และใบอนุญาตทำงานให้แก่แรงงานอย่างไร ยิ่งกว่านั้น แรงงานไทยจำนวนมาก ไม่กล้าเปิดเผยสภาพการทำงานและการใช้ชีวิตในอิสราเอล เพราะกลัวที่จะต้องสูญเสียรายได้
รัฐมนตรีแรงงานอิสราเอล กล่าวว่า ทางการอิสราเอลได้เข้าตรวจสอบฟาร์มเกษตรปีละกว่า 400 ครั้ง รวมทั้งมีการนำล่ามคนไทยเข้าร่วมในการตรวจสอบด้วย และตั้งแต่ พ.ศ. 2556 เป็นต้นมา ทางการอิสราเอล ได้ดำเนินการสอบสวนข้อร้องเรียนเรื่องการจ่ายค่าจ้างแรงงานและการใช้งานเกินเวลามากกว่า 1,500 ครั้ง รวมทั้งมีการส่งคำเตือนถึงนายจ้างกว่า 3,000 คำเตือนและปรับเป็นเงิน 200 ครั้ง คิดเป็นเงินมากกว่า 3.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 120 ล้านบาท
ทีมต่างประเทศ
CR:BBC.COM